บริษัท ไทยบริดจสโตน จํากัด ร่วมกับมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย (AIP Foundat ion) และภาคีในพื้นที่ ส่งมอบพื้นที่ความปลอดภัยบนท้องถนนในโครงการ “Bridge stone Global Road Safety ปีที่ 1 (บริดจสโตน โกลบอล โรด เซฟตี้)” แก่โรงเรียนกะทู้วิทยา จังหวัดภูเก็ต โดยปรับปรุงสภาพแวดล้อมรอบโรงเรียน ให้ปลอดภัยตามมาตรฐาน 5 ดาว*1 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการแสดงความรับผิดชอบขององค์กรต่อสังคมผ่านการส่งเสริม ความปลอดภัยบนท้องถนนของบริดจสโตนทั่วโลก ด้วยความมุ่งมั่นในฐานะการเป็นองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืน บริดจสโตนร่วมอยู่เคียงข้างการเดินทางของผู้คนบนท้องถนนและขับเคลื่อนทุกชีวิตไปสู่จุดหมายได้อย่างปลอดภัย พร้อมคำมั่นสานต่อโครงการฯ โดยเริ่มต้นที่โรงเรียนเพื่อสร้างจิตสำนึกรับผิดชอบ ตลอดจนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนให้เยาวชนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีส่วนร่วมในการช่วยลดอุบัติเหตุและยกระดับ ความปลอดภัยอย่างเป็นรูปธรรมผ่านโรงเรียนต้นแบบ
มร.เคอิจิ ชูมะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด เผยว่า “โครงการ “Bridgestone Global Road Safety” เป็นกิจกรรมเพื่อสังคมที่บริดจสโตนทั่วโลกร่วมกันจัดขึ้น เพื่อเสริมสร้างสังคมขับขี่ปลอดภัย โดยเน้นสร้างจิตสำนึกและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน ทั้งยังเน้นย้ำความสำคัญของการรักษากฎวินัยจราจรสู่เด็กและเยาวชน ซึ่งวัตถุประสงค์และกิจกรรมของโครงการฯ ประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ได้แก่
1. School-Based Education - พัฒนาความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนที่ปลอดภัยของนักเรียนและครู ในโรงเรียนกลุ่มเป้าหมาย เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
2. Empowerment - คัดเลือก Bridgestone’s Youth Champions เป็นตัวแทนความปลอดภัยทางถนน เพื่อปลูกฝัง ภาวะผู้นำและความตระหนักด้านความปลอดภัยทางถนนของนักเรียน พร้อมต่อยอดสร้างสรรค์กิจกรรม ด้านความปลอดภัยภายในโรงเรียน และร่วมนำความรู้ไปเผยแพร่ให้เพื่อน ครอบครัว และเยาวชนรุ่นต่อไป
3. Road Safety Assessments หรือ RSAs - เลือกโรงเรียนจากกลุ่มเป้าหมายจำนวน 1 โรงเรียน เพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบ โดยใช้เครื่องมือการให้คะแนนระดับดาวสำหรับโรงเรียน (Star Ratings for Schools - SR4S) แก้ไข และปรับปรุงด้านความปลอดภัยให้เหมาะสมกับพื้นที่โดยรอบ เพื่อให้การเดินทางสำหรับนักเรียน ผู้ปกครอง และครู มีมาตรฐานมากกว่า 3 ดาวขึ้นไป
4. Local Engagement - ส่งเสริมความแข็งแกร่งของเครือข่ายจิตอาสา โดยประสานความร่วมมือกับภาคีในพื้นที่ ที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในโรงเรียนเป้าหมายให้ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และช่วยลดอุบัติเหตุ ได้อย่างยั่งยืน
สำหรับปีที่ผ่านมา บริดจสโตนได้จัดกิจกรรมดังกล่าวในโรงเรียนรวมทั้งสิ้น 4 โรงเรียน คือ โรงเรียนกะทู้วิทยา จังหวัดภูเก็ต โรงเรียนนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน 2 จังหวัดขอนแก่น และโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม 2 จังหวัดเชียงราย โดยมีนักเรียน 261 คน ครู 40 คน เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรม และได้นำเยาวชน 8 คนจาก 4 โรงเรียน ที่ได้รับการคัดเลือกเป็น Bridgestone’s Youth Champions หรือเยาวชนต้นแบบที่มีจิตสำนึกที่ดีด้านความปลอดภัยในการ ใช้รถใช้ถนน ผ่านการสร้างสรรค์และดำเนินโครงการภายในโรงเรียนของตน โดยน้องๆ เยาวชนทั้ง 8 คนนี้ได้เข้าร่วมอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนนซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ และยังได้รับการสนับสนุนให้เข้าไปมีบทบาทแสดง ความคิดเห็นในงานด้านความปลอดภัยทางถนนระดับชาติ ต่อยอดสร้างสรรค์กิจกรรมด้านความปลอดภัย และส่งต่อแนวคิดไปยังคนรุ่นต่อๆ ไปในชุมชน นอกจากนี้ยังมีการประเมินความปลอดภัยทางถนนโดยใช้เครื่องมือการให้คะแนนระดับดาวสำหรับโรงเรียน (Star Ratings for Schools - SR4S) และคัดเลือก 1 โรงเรียน ซึ่งได้แก่ โรงเรียนกะทู้วิทยา จังหวัดภูเก็ต เพื่อจัดทำโครงสร้างพื้นฐานให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมรอบโรงเรียน หรือ Infrastructure Modifications โดยได้รับ ความร่วมมือจากภาคีในพื้นที่ และศูนย์บริการรถยนต์ ค็อกพิท มานิตย์ เซ็นเตอร์ แม็กซ์ เป็นอย่างดี ด้วยการปรับปรุงพื้นที่บนทางเท้า และการจราจรในละแวกใกล้โรงเรียนให้มีความปลอดภัย จัดทำป้ายสัญญาณจราจร เครื่องหมายจราจรบนผิวทางที่ชัดเจน และกำหนดให้เป็นจุดกวดขันด้านการจราจรที่เข้มงวด เป็นต้น ด้วยการสนับสนุนให้เป็นโรงเรียนต้นแบบ ความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งจะช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุและความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นแก่โรงเรียน รวมถึงชุมชน และสังคมโดยรอบได้”
ด้านคุณมิเรียม ซิดิก ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย (AIP Foundation) เผยถึงความสำคัญและหลักเกณฑ์การปรับปรุงพื้นที่ความปลอดภัยบนท้องถนนสำหรับโรงเรียนภายใต้โครงการ Bridgestone Global Road Safety ปีที่ 1 ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณโครงการโดย บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด เพิ่มเติมว่า “การส่งมอบถนน ติดดาว ณ โรงเรียนกะทู้วิทยาในครั้งนี้ เป็นนิมิตหมายที่ดีที่แสดงถึงเป้าหมายในการสร้างสังคมแห่งความปลอดภัยที่ยั่งยืนของทุกฝ่ายที่ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการนี้ โดยมีการปรับปรุงด้านความปลอดภัยบริเวณโรงเรียนโดยใช้ผลการประเมินและข้อเสนอแนะจากเกณฑ์การประเมินระดับดาวด้านความปลอดภัย (The award-winning Star Ratings for Schools system หรือ SR4S) ของ iRAP ในการวัดผลด้านความเสี่ยงในการใช้รถใช้ถนนของนักเรียนระหว่างไป-กลับโรงเรียน ซึ่งพบว่าบริเวณหน้าโรงเรียนมีการจำกัดความเร็วอยู่ที่ 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ไม่มีป้ายเตือนการลดความเร็ว และไม่มีป้ายแสดงเขตโรงเรียน ดังนั้นเพื่อป้องกันการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และชุมชน จึงได้ติดตั้งป้ายเตือนต่างๆ ให้เพิ่มความระมัดระวังในเขตโรงเรียน เช่น ป้ายลดและจำกัดความเร็วเป็น 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีการทาสีย้ำเส้นจราจรเดิมให้ชัดเจน และร่วมกับโรงเรียนจัดระเบียบที่จุดจอดรถ รับ-ส่ง บริเวณหน้าโรงเรียน สอดคล้องกับเป้าหมาย การพัฒนาด้านความปลอดภัยที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งหมายรวมถึงการพัฒนาด้านความปลอดภัยทางถนน เพื่อลดอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตลงให้ได้ 50% ภายในปี พ.ศ. 2573 อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนความเท่าเทียมในการเข้าถึงการศึกษาของเด็กทุกคนที่ต้องสามารถเดินทางไป-กลับโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย และขยายผลการปลูกฝังวัฒนธรรมความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในชุมชน เพื่อผลของการประเมินเพิ่มระดับดาวความปลอดภัยให้สูงขึ้นในระดับสูงสุดที่ 5 ดาว ในฐานะโรงเรียนต้นแบบนำร่องโครงการรุ่นที่ 1”
คุณอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เผยว่า “ผมในฐานะรองผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการ ความปลอดภัยทางถนนจังหวัดภูเก็ต ขอขอบคุณ บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด และมูลนิธิเอไอพี รวมถึงหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันดำเนินโครงการ Bridgestone Global Road Safety ปีที่ 1 นี้ขึ้น จังหวัดภูเก็ตมีการกวดขันวินัย ทางจราจรอย่างจริงจังและได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดีเสมอมา การมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมและภาคประชาชนพื้นที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างประสิทธิภาพการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในระดับพื้นที่ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น หวังว่าโครงการนี้จะสามารถรณรงค์ให้คนในชุมชนมีวัฒนธรรมความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องความปลอดภัยทางถนน และแบบอย่างที่ดีของนักเรียนในโครงการ ซึ่งจะสามารถขยายผลไปยังชุมชนใกล้เคียงได้ และสามารถกระจายองค์ความรู้อันเป็นประโยชน์นี้ไปสู่โรงเรียน และชุมชนอื่นๆ โดยไม่เฉพาะเจาะจงว่าจะเกิดประโยชน์สำหรับโรงเรียนในโครงการเพียงกลุ่มเดียว”
คุณสนิท รอดเซ็น ผู้อำนวยการโรงเรียนกะทู้วิทยา กล่าวเสริมว่า “บริเวณพื้นที่หน้าโรงเรียนและถนนโดยรอบโรงเรียนนับเป็นจุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน เพราะเป็นพื้นที่สัญจรของนักเรียน ครู และบุคลากรในโรงเรียน ตลอดจนผู้ปกครองที่มารับบุตรหลาน ขอขอบคุณไทยบริดจสโตนที่เลือกโรงเรียนกะทู้วิทยา จังหวัดภูเก็ตเป็นโรงเรียนนำร่องในการ จัดกิจกรรมให้ความรู้แก่นักเรียนในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน รวมทั้งยกระดับความปลอดภัยในละแวกใกล้โรงเรียน เพื่อลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับผู้ใช้ถนนทุกคน”
“ผมทั้ง 2 คน มีความภาคภูมิใจมากที่ได้รับคัดเลือกเป็น Bridgestone’s Youth Champions ผมจะนำความรู้ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการ Bridgestone Global Road Safety ปีที่ 1 มาประยุกต์ใช้ในโรงเรียนและเขตชุมชน และ สานต่อให้น้องๆ ที่โรงเรียนได้นำความรู้เหล่านี้นำไปใช้อย่างถูกต้อง ขอขอบคุณไทยบริดจสโตนที่ให้โอกาสพวกผมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการดีๆ ครับ” นายธนพล แซ่ขอ และนายณรงค์ชาญ ทนน้ำ Bridgestone’s Youth Champions จากโรงเรียนกะทู้วิทยา จังหวัดภูเก็ต กล่าวขอบคุณ
ทั้งนี้ บริดจสโตนได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและพร้อมมุ่งมั่นดำเนินโครงการ Bridge stone Global Road Safety โดยขยายไปยังโรงเรียนต่างๆ อย่างต่อเนื่องต่อไป สอดคล้องกับ “พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน” (Bridgestone E8 Commitment) *2 ซึ่งคือ “Empowerment หรือด้านพลังสังคม เพื่อผลักดันและร่วมสร้างสังคมเท่าเทียม และภาคภูมิใจแก่ทุกคน” และ “Ease หรือด้านความสะดวกสบาย เพื่อสร้างความสะดวกสบาย สุขใจไร้กังวลในชีวิตการเดินทาง” ภายใต้แนวคิดที่ว่าบริดจสโตน ร่วมอยู่เคียงข้างและมุ่งมั่นสร้างสรรค์เพื่อตอบแทนสังคมไทยในการส่งเสริมและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการเดินทางอย่างยั่งยืน
1 การปรับปรุงสภาพแวดล้อมรอบโรงเรียนให้ปลอดภัยตามมาตรฐาน 5 ดาว คือ การปรับปรุงสาธารณูปโภคด้านการจราจรโดยใช้เกณฑ์ตามระบบเครื่องมือการให้คะแนนระดับดาวสำหรับโรงเรียน (Star Ratings For Schools system – SR4S) เครื่องมือที่อิงหลักฐานนี้ใช้ในการวัดค่า จัดการ และสื่อสารความเสี่ยงที่มีต่อเด็กในการเดินทางไปโรงเรียน ซึ่งเป็นที่ยอมรับถึงศักยภาพในการลดความเสี่ยงและช่วยชีวิตคนเดินเท้าทั่วโลก และได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ Prince Michael International Road Safety Award เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ.2561 ระบบนี้อำนวยให้มีการปรับปรุงช่วยชีวิตและป้องกันการบาดเจ็บได้ตั้งแต่ วันแรกที่ใช้งาน ทั้งนี้องค์การสหประชาชาติได้ระบุถึงการดำเนินการด้านความปลอดภัยบนท้องถนนไว้ในเป้าหมาย การพัฒนาอย่างยั่งยืนข้อที่ 3.6 (Sustainable Development Goal – SDG 3.6) ในหมวดสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี และSR4S ก็เป็นกุญแจสู่การดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายทั่วโลกสำหรับคนเดินเท้าทั้งวัยเด็กและวัยรุ่น
2 กลุ่มบริษัทในเครือบริดจสโตนได้ประกาศ “พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน” (Bridgestone E8 Commitment) ซึ่งเป็น พันธสัญญาขององค์กร เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์: “สู่ปี ค.ศ. 2050 บริดจสโตนยังคงส่งมอบคุณค่าให้สังคมและลูกค้า ในฐานะองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืน” พันธสัญญาดังกล่าวจะเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนการบริหารควบคู่ไปกับการสร้างความไว้วางใจและน่าเชื่อถือให้กับคนรุ่นต่อไปในอนาคต “พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน” (Bridgestone E8 Commitment) ประกอบด้วยคุณค่า 8 ด้าน ที่เริ่มต้นด้วยตัวอักษร E (ได้แก่ Energy (ด้านพลังงาน), Ecology (ด้านสิ่งแวดล้อม), Efficiency (ด้านประสิทธิภาพ), Extension (ด้านเติบโต), Economy (ด้านเศรษฐกิจ), Emotion (ด้านความรู้สึก), Ease (ด้านความสะดวกสบาย) และ Empowerment (ด้านพลังสังคม)) ซึ่งกลุ่มบริษัทในเครือบริดจสโตนจะมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผ่าน “เจตจำนง” และ “กระบวนการทำงาน” ร่วมกับพนักงาน สังคม พันธมิตร และลูกค้าเพื่อสังคมที่ยั่งยืน
เกี่ยวกับ บริดจสโตน ประเทศไทย
บริษัท บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น มีสำนักงานใหญ่ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ผู้นำระดับโลกด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนพร้อมนำเสนอโซลูชั่นขั้นสูงสุด และสำหรับประเทศ ไทย บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด คือหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และบริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการนำเข้า จัดจำ หน่าย และทำการตลาดยางรถยนต์ภายใต้แบรนด์บริดจสโตน,ไฟร์สโตน และเดย์ตันแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เราได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้า, ผู้แทนจำหน่าย และพันธมิตรทางธุรกิจจากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ที่มาพร้อมกับคุณภาพด้านผลิตภัณฑ์ที่ได้ถูกพัฒนาให้เหมาะสมกับความต้องการและสภาพแวดล้อมในประเทศ เพื่อการส่งมอบคุณค่าให้แก่สังคมและลูกค้า บริดจสโตนมุ่งมั่นพัฒนาการเดินทาง, การใช้ชีวิต, การทำงาน และการพักผ่อนของผู้คน เพื่อสร้างสรรค์อนาคตของการเดินทางให้ยั่งยืน
ข่าวเด่น