รู้ไหมคนส่วนใหญ่รู้ว่าควรออมเงิน...รู้ไหมว่าคนส่วนใหญ่รู้ว่าตนเองมีเงินออมไม่เพียงพอ...และรู้ไหมว่าเทียบจากทั้งหมดมีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่รู้แล้ว...แต่ก็ยังไม่เริ่มออม เพื่อนๆ คือหนึ่งในนั้นหรือเปล่า? ถ้าหากว่าใช่ เรามาเริ่มปีใหม่ เป้าหมายใหม่ ด้วยการตั้งเป้าหมายการออมกันเถอะ ที่ไม่ใช่เพื่อใครที่ไหน แต่เพื่อตัวเราเอง มีคนบอกว่าการเก็บเงินล้านแรกยากที่สุด งั้นเรามาตั้งเป้าหมายพิชิตล้านแรกกันไหม การออมแบบง่าย ๆ ที่เพื่อนๆ ก็ทำได้ “มือใหม่เลือกหุ้นไม่เป็นก็ลงทุนได้” การออมหรือลงทุนมีหลากหลายช่องทางให้เลือก ทางเลือกหนึ่งที่เป็นที่นิยมและให้ผลตอบแทนที่ดี คือ การลงทุนในตราสารทุน หรือ หุ้น การซื้อหุ้นก็เหมือนเราเข้าไปเป็นเจ้าของในกิจการของบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ผลตอบแทนที่ได้ก็จะมาในรูปแบบของราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น และในรูปแบบของเงินปันผลจากกำไรที่บริษัทได้รับ แต่แน่นอนว่าการลงทุนในหุ้นก็มีความเสี่ยงและมีข้อมูลมากมายที่ผู้ลงทุนต้องศึกษา ทั้งลักษณะการประกอบธุรกิจ การอ่านงบการเงิน รวมถึงการประเมินแนวโน้มธุรกิจ ซึ่งอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับมือใหม่บางคน
แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่าตลาดหุ้นมีทางเลือกการลงทุนแบบอ้างอิงดัชนี หรือรูปแบบการลงทุนแบบ Passive Fund ที่ให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง เรียกว่า “กองทุน ETF” (Exchange Traded Fund) ซึ่งเป็นกองทุนที่จดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้สามารถซื้อขายได้เหมือนหุ้นตัวหนึ่ง ซึ่งเพื่อนๆ อาจจะใช้เป็นทางเลือกลงทุน โดยจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ใกล้เคียงดัชนีตลาดหุ้น ข้อดีคือเพื่อน ๆ ไม่จำเป็นต้องเลือกหุ้นรายตัว เพราะกองทุน ETF จะมีผู้จัดการกองทุนเป็นผู้ช่วยในการบริหารซื้อขายหุ้นตามนโยบายการลงทุนของกองทุน ETF ง่ายใช่ไหมแถมมีมืออาชีพมาช่วยบริหาร เป้าหมายเงินล้านเราคงไม่ไกลเกินเอื้อม
“5 ขั้นตอน easy”
5 ขั้นตอนง่ายๆ กับการลงทุนผ่าน ETF เพื่อพิชิตเป้าหมายเงินล้าน ทำได้ดังนี้ขั้นที่ 1: ตั้งเป้าหมาย “ชัดเจน วัดได้ และไปให้ถึง”
ขั้นแรกเพื่อนๆ ควรเร่ิมจากการวาง “เป้าหมาย” ของการลงทุน ควรประกอบด้วยเป้าหมายของเงินออม ระยะเวลาในการลงทุน อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน อัตราการออมเงินต่อเดือน เพื่อให้เพื่อนๆ สามารถวัดผลการลงทุนและสามารถปรับเปลี่ยนแผนได้ถ้าผลตอบแทนหรือเงินออมไม่ได้เป็นไปตามที่วางแผนไว้ ยกตัวอย่าง การลงทุนผ่าน ETF ที่ลงทุนอ้างอิงดัชนีตลาดหุ้นไทย จากสถิติอัตราผลตอบแทนระยะยาวของตลาดหุ้นไทยอัตราผลตอบแทนอยู่ระหว่าง 8 - 12% ถ้าคิดที่อัตราผลตอบแทน 8% ถ้าเพื่อนๆ อยากจะมีเงินล้านแรก ด้วยระยะเวลาการลงทุน 5 ปี เพื่อนๆ อาจจะต้องออมเงินเพื่อลงทุนผ่าน ETF ต่อเดือนประมาณ 14,000 บาท แต่ถ้าเป้าหมายของเพื่อนๆ ยาวหน่อยเป็นระยะเวลาสัก 10 ปี ประมาณการเงินออมลงทุนใน ETF ต่อเดือนก็จะเหลือประมาณ 5,500 บาท โดยประมาณการเงินออมจะขึ้นอยู่กับอัตราผลตอบแทนที่เพื่อน ๆ ได้รับ ถ้าอัตราผลตอบแทนที่ได้จริงต่ำกว่า 8% เพื่อน ๆ อาจจะต้องเพิ่มจำนวนเงินการออมต่อเดือนให้สูงขึ้น หรือขยายระยะเวลาในการออมให้นานขึ้นนั่นเองขั้นที่ 2: เปิดบัญชีเริ่มซื้อ ETF
หลังจากที่เราวางแผนการลงทุนใน ETF เรียบร้อยแล้ว ในลำดับต่อมาก็คือเริ่มซื้อ ETF กันครับ โดยการซื้อ ETF ทำได้ง่ายๆ เหมือนการซื้อหุ้นทั่วไป โดยเพื่อนๆ จะต้องเริ่มเปิดบัญชีการซื้อขายหุ้นกับบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งก็มีให้เลือกหลากหลายบริษัทตามแต่เพื่อน ๆ ชอบได้เลย โดยเพื่อน ๆ อาจจะเลือกจากบริษัทหลักทรัพย์ที่เพื่อน ๆ รู้จัก หรือบริษัทหลักทรัพย์ที่มีเพื่อนหรือญาติพี่น้องใช้บริการอยู่ก็ได้ โดยการเปิดบัญชีเพื่อซื้อขายหุ้นนั้นเพื่อนๆ จะต้องทำการ KYC เพื่อยืนยันตัวตนโดยใช้เอกสารเพียงสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาหน้าบัญชีธนาคารที่ใช้สำหรับฝากถอนเงิน ยิ่งปัจจุบันมีช่องทางให้เพื่อน ๆ สามารถเปิดบัญชีได้ผ่านช่องทาง Online และสามารถซื้อขายได้ด้วยตัวเอง แค่นี้ก็ง่ายสไตล์คนรุ่นใหม่
ในกรณีที่เพื่อนๆ สนใจลงทุน ETF แต่ไม่สะดวกในการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นกับบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อน ๆ สามารถซื้อหน่วยลงทุน ETF ได้เหมือนกับซื้อกองทุนรวมทั่วไปผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่ออกกองทุน หรือตัวแทนขายหน่วยลงทุน (Selling Agent) ที่ได้รับอนุญาต ถือเป็นทางเลือกในการลงทุนแบบง่าย ๆ อีกหนึ่งช่องทาง โดยเพื่อนๆ สามารถสอบถามกับ บลจ. ที่ออกกองทุนว่ามีเปิดให้บริการหรือไม่ เพราะยังไม่ได้เปิดให้บริการทุกกองขั้นที่ 3: เลือกกองที่ถูกใจ แต่กำไรต้องถูกทาง
เมื่อเปิดบัญชีซื้อขายเรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปคือการเลือกกองทุน ETF ตามที่เพื่อน ๆ ต้องการ ซึ่งปัจจุบัน ETF ที่ซื้อขายในตลาดหุ้นไทยมีให้เลือกลงทุนมากกว่า 10 กองทุน ทั้งกองทุนที่ลงทุนอ้างอิงดัชนีตลาดหุ้นไทย ดัชนีหมวดอุตสาหกรรม ดัชนีราคาตราสารหนี้ ดัชนีราคาทองคำ และดัชนีหุ้นต่างประเทศ ซึ่งในปัจจุบันก็มีกองทุนที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้ลงทุนในกลุ่มหุ้นเมกะเทรนด์โลกด้วย สำหรับเพื่อน ๆ ที่อาจจะยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกกองทุน ETF ตัวไหนดี ผมมีแนวทางในการเลือก ETF แบบง่ายๆ ให้ดังนี้
1. “เลือกนโยบายที่ใช่ในแบบเรา” หรือเลือกกองทุน ETF ที่มีนโยบายการลงทุนที่เราสนใจ เช่น ถ้าสนใจลงทุนในตลาดหุ้นไทย ก็เลือก ETF กองที่มีนโยบายการลงทุนอ้างอิงกับดัชนีหุ้นไทย เป็นต้น
2. “ผลตอบแทนใกล้เคียงดัชนีอ้างอิง” กองทุน ETF มักจะอ้างอิงกับราคาสินทรัพย์ หรือดัชนีในรูปแบบการลงทุนแบบ (Passive management / Index tracking) ซึ่งจะทำให้ค่า Tracking Error ไม่ควรสูงมาก หรือให้ผลตอบแทนใกล้เคียงดัชนีอ้างอิงนั่นเอง
3. “ค่าธรรมเนียมเหมาะสม” ค่าธรรมเนียมไม่ควรสูงจนเกินไป
4. “สภาพคล่องสูง” เนื่องจากกองทุน ETF สามารถซื้อขายได้ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังนั้น ถ้าเราเลือกกองทุนที่มีสภาพคล่องสูง หรือมีปริมาณการซื้อขายสูง ก็จะทำให้เพื่อนๆ สามารถขายเพื่อทำกำไรได้ง่าย
ขั้นที่ 4: ลงสม่ำ รวยเสมอ
เมื่อเพื่อน ๆ เริ่มลงทุนแล้ว รู้ไหมครับว่าสิ่งที่จะทำให้เราออมเงินได้ตามเป้าหมายก็คือ “วินัย” ในการลงทุน เมื่อได้เริ่มออมลงทุนแล้วควรออมต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ เพราะนอกจากจะทำให้เราจะมีเงินออมถึงเป้าหมายได้ตามแผนแล้ว ตลาดหุ้นหรือสินทรัพย์ที่กองทุน ETF อ้างอิงราคามีขึ้นมีลง ดังนั้นเพื่อนๆ อาจจะไม่สามารถซื้อได้ในระดับราคาต่ำสุดเสมอ การออมลงทุนทุกเดือนจะเป็นเหมือนการเฉลี่ยต้นทุน หรือที่รู้จักกันในชื่อ Dollar-Cost- Averaging (DCA) ซึ่งเพื่อนๆ อาจจะกำหนดทุกๆ วันเงินเดือนออก หรือทุกวันที่ 1 ของเดือนก็ได้ ซึ่งจะทำให้การออมลงทุนของเพื่อนๆ สม่ำเสมอ เติบโตอย่างต่อเนื่อง เชื่อเถอะแบบนี้เป้าหมายเงินล้านก็ไม่ไปไหนขั้นที่ 5: ตรวจสอบ ปรับพอร์ต ไปตลอดทาง
เมื่อเพื่อนๆ เดินมาได้ 4 ขั้นตอน ขั้นตอนสุดท้ายคือการตรวจสอบ และหมั่นปรับพอร์ตอยู่เสมอ อย่างที่ยกตัวอย่างไปในตอนต้นว่าถ้าอัตราผลตอบแทนที่เพื่อนๆ ตั้งเป้าหมายไว้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายเพื่อนๆ อาจจะมีการปรับสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่น หรือเพื่อนๆ อาจจะมีการเพิ่มสัดส่วนการออมเพื่อให้เป้าหมายเงินล้านเป็นไปได้ตามเป้าหมายเดิม
เมื่อทำครบ 5 ขั้น เราก็พร้อมสู่การพิชิตเงินล้านผ่าน ETF กันแล้ว ท้ายสุดฝากกองทุน ETF ไทยไว้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่จะช่วยให้เพื่อนๆ ไปถึงฝันเงินล้านแรก เราสามารถใช้ ETF ไทย ในการจัดพอร์ตลงทุน หรือเติมเต็มพอร์ตลงทุนของเราได้ เพราะ ETF ไทยมีหลายประเภทให้เลือกลงทุน ถ้าแบ่งจัดสรรการลงทุนดีๆ เพียงไม่กี่ปีก็อาจจะได้เห็นเงินล้านแรก และล้านต่อๆ ไป เพียงแค่เพื่อนๆ ต้องเริ่มเลยเท่านั้นเองแล้วจะพบว่า ล้าน - เริ่ม - ง่าย
ข่าวเด่น