เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ราคาทองไม่ย่อตัวหลุด 1,820 ดอลล์ทยอยเข้าซื้อสะสม ปัจจัยทางเทคนิคหนุน-Fund Flow เริ่มไหลกลับเข้าหุ้นไทย


สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำแกว่งตัวออกข้างในกรอบ 1,840-1,865 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากรายงานการประชุม FOMC ครั้งล่าสุด เฟดยังไม่มีมุมมองเชิงลบต่อนโยบายการเงินเพิ่มเติม โดยเฟดยังยืนยันจะปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.5% ในการประชุม FOMC เดือนมิถุนายนและกรกฎาคม พร้อมทั้งปรับลดงบดุลราว 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน


ซึ่งสะท้อนผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐที่ทำจุดต่ำสุดในรอบ 1 เดือน แตะระดับ 2.74% สอดคล้องกับดัชนีดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงบริเวณ 101.70 ขณะที่ระหว่างสัปดาห์ SPDR เข้าซื้อเพิ่มกว่า 6.38 ตัน

ส่วนสัปดาห์นี้ จับตาคำแถลงของเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ว่าจะสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมหรือไม่ หากสังเกตุจากแนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐในเดือนพฤษภาคมอาจยังทรงตัวระดับสูงเหนือ 8% เนื่องจากล่าสุดราคาน้ำมันดิบทรงตัวระดับ 114 กอลลาร์ต่อบาร์เรล ใกล้เคียงกับเดือนมีนาคม ซึ่งสูงกว่าเดือนเมษายนที่แกว่งตัวบริเวณ 105 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อีกทั้งยังต้องจับตาประกาศตัวเลขภาคแรงงานอย่าง การจากงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงาน จะปรับตัวลงหรือไม่เมื่อเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มทรงตัวระดับสูงต่อไป

ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่า ตลาดได้รับรู้ข่าวเฟดไปแล้ว เมื่อตลาดมีความผ่อนคลายมากขึ้นจะยังเป็นแรงหนุนให้ราคาทองคำยังแกว่งตัวในกรอบ 1,820-1,875 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากระหว่างสัปดาห์ราคาทองคำไม่ย่อตัวหลุด 1,820 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทยอยเข้าซื้อสะสม

ส่วนบรรยากาศตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27-5-65) ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ ทั้งในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวขึ้นราว +0.5% ถึง +1.2% และตลาดสหรัฐ โดยเป็นแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง และหุ้นกลุ่มธนาคาร ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นักลงทุนจับตาการรายงานตัวเลข PCE ของสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,638.75 จุด+5.02 จุด +0.31% มูลค่าการซื้อขาย 65,910 ล้านบาท

ฝ่ายวิจัยคาดดัชนีสัปดาห์นี้มีโอกาสรีบาวด์ขึ้นต่อเนื่องจากปัจจัยทางเทคนิคที่หนุนและ Fund Flow เริ่มไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทย อีกทั้งการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 มิ.ย. 65 ช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติม คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,625-1,665 จุด

สำหรับหุ้นที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ ได้แก่ หุ้น PIMO ราคาปอดล่าสุดอยู่ที่ 3.60 บาท กราฟกลับมายืนเหนือเส้น EMA ทุกเส้นได้ติดต่อกัน 2 สัปดาห์พร้อมปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับค่าสัญญาณ MACD และ RSI ที่ปรับตัวขึ้นสนับสนุน มีแนวรับอยู่ที่ 3.52 บาท มีจุด cut loss 3.48 บาท

และหุ้น TU มีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 17.00 บาท ลุ้นเกิดรูปแบบกลับตัว U Shape ในภาพใหญ่ เนื่องจากราคาหุ้นเริ่มสร้างฐานได้ และปิดเหนือเส้น EMA 10 วันได้ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ทำให้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ มีแนวรับอยู่ที่ 16.60 บาท และมีจุด cut loss อยู่ที่ 16.40 บาท

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 30 พ.ค. 2565 เวลา : 10:37:30
14-05-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 14, 2025, 2:19 pm