บมจ.เทคโนเมดิคัล (“TM”) ส่งซิกไตรมาส2/2565 ยอดขายอุปกรณ์การแพทย์ – อุปกรณ์ป้องกันไวรัส ส่อแววพุ่ง หลังการเปิดประเทศ หนุนนักท่องเที่ยว – ผู้ป่วย ต่างชาติ กลับมาท่องเที่ยวและใช้บริการทางการแพทย์มากขึ้น ส่วนการเปิดภาคเรียน กระตุ้นการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันการฆ่าเชื้อไวรัสต่อเนื่อง ขณะที่ 2 โบรกประสานเสียง แนะนำซื้อTM โดยให้ราคาเหมาะสม 3.40 – 3.46 บาท ต่อหุ้น พร้อมระบุ TM อนาคตยังสดใส
นางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ (“TM”) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในไตรมาส2/2565 ยังคงมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ทั้งนี้เป็นผลมาจากการเปิดประเทศ ซึ่งก็เป็นปัจจัยหนุนให้กลุ่มนักท่องเที่ยว รวมถึงผู้ป่วยชาวต่างชาติ มีโอกาสกลับมาท่องเที่ยวและใช้บริการทางการแพทย์ในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งสัญญาณเชิงบวกต่อTM ในฐานะเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในกลุ่มอุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลือง และกลุ่มอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับโรงพยาบาลรัฐบาล โรงพยาบาลเอกชน คลินิกและบุคลากรทางการแพทย์ และลูกค้าทั่วไป รวมถึงอุปกรณ์สำหรับฆ่าเชื้อ – อุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด -19 เนื่องจาก TM จะได้อานิสงส์บวกจากยอดขายอุปกรณ์และเครื่องมือผ่าตัดกลับมาฟื้นตัวอย่างโดดเด่นอีกครั้ง ประกอบกับการเปิดภาคเรียน ยิ่งทำให้กลุ่มผู้ปกครองยิ่งต้องหาวิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ทำให้ผลิตภัณฑ์ป้องกันการติดเชื้อ และผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคไวรัสที่เกี่ยวกับโควิด ยังคงมีดีมานด์ความต้องการใช้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทฯมุ่งนั่นในการขยายตลาดผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ทางการแพทย์ฯ รวมถึงอุปกรณ์ ฆ่าเชื้อฯ ผ่านช่องขายแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เพื่อเข้าถึงลูกค้า B2C จากเดิมที่เป็นกลุ่มลูกค้า B2B ผ่านการ Live สด ใน Facebook ,YouTube เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ สามารถตอบโจทย์ลูกค้า จนสามารถขยายฐานลูกค้ารายใหม่ๆ ได้เพิ่มมากขึ้น และในช่วงปลายไตรมาส 2/2565 บริษัทฯเตรียมเพิ่มผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารเสริม รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากสมุนไพรไทยเพื่อดูแลสุขภาพ ที่มีส่วนผสมสารสกัดจากกระท่อม กระเทียม น้ำมันกัญชง ฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน และ กระชาย ภายใต้ แบรนด์ "TM Herb" เข้ามาจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ สำหรับในส่วนผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารเสริม ที่มีส่วนผสมของใบข้าวอ่อนไทย (Chory) มีสารต้านอนุมูลอิสระ และ เสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย ทั้งยังช่วยให้นอนหลับสนิท อยู่ระหว่างขั้นตอนการยื่นขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)ทั้งนี้หากอย.ไฟเขียว บริษัทฯก็สามารถทำการตลาดได้ทันที
จากการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจของ TM ในปี2565 ส่งผลให้บริษัทฯตั้งเป้าอัตราการเติบโตไว้ประมาณ 700 - 750 ล้านบาท โดยจะมาจากสัดส่วนรายได้ยอดขายจากช่องทางแพลตฟอร์มออนไลน์ จากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะเข้ามาส่งเสริมการขาย อยู่ที่ระดับ 30 ล้านบาท
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ “Pi” แนะนำ “ซื้อ” ให้มูลค่าพื้นฐาน 3.46 บาท โดยมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการที่คาดจะโตเฉลี่ยกว่าปีละ 30% ใน 3 ปีข้างหน้า (2022 - 2024 )ที่
ระดับ 1 พันล้านบาท และโอกาสให้ผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ยปีละ 4% จากปัจจัยภาพธุรกิจ 1.การจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์จะฟื้นตัวหลังโควิดชะลอลง มองว่าจะเป็นปัจจัย ผลักดันการเติบโตทั้งด้านรายได้และกำไรสุทธิให้เติบโต หนุนจากยอดขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวกับการผ่าตัดที่เพิ่มขึ้นในโรงพยาบาลรัฐ เอกชน และ คลินิก ตามจำนวนเคสผ่าตัดที่เพิ่มขึ้น หลังสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศเริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้โรงพยาบาลสามารถกลับมาให้บริการผู้ป่วยผ่าตัด และกรณีทั่วไปได้ตามปกติ
2.บริษัทฯขยายช่องทำงจำหน่ายผ่านออนไลน์จะช่วยหนุนรายได้ โดยคาดว่า กลยุทธ์เจาะกลุ่มตลาดออนไลน์ จะช่วยเพิ่มยอดขายในปี22 ได้ราว15 ล้านบาท และจะเติบโตเป็นสัดส่วนราว7%ของรายได้รวมใน3ปีข้างหน้า 3. การเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เกี่ยวกับสุขภาพจะช่วยขยายฐานลูกค้า โดยบริษัทเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ “TM Herb” เป็นสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพ เช่น เครื่องทำ น้ำด่าง ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง อาหารเสริมบำรุงสุขภาพ ผลิตภัณฑ์พืชสมุนไพรในรูปแบบแคปซูล รวมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ โดยจะทยอยจำหน่ายเชิงพาณิชย์ ภายใต้ร้าน“TM CARE SHOP” ในช่วง 2Q22
และ 4.ธุรกิจโครงการใหม่สำหรับผู้สูงวัยจะเป็น upside ในระยะถัดไป ภายใต้ธุรกิจเพื่อการดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลเฉพาะทางสำหรับผู้สูงอายุ ภายใต้ โครงการ “THE PARENT”และเตรียมที่จะเปิดให้บริการในส่วนของศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ภายในช่วงท้าย 4Q22 และคาดว่า จะเปิดดำเนินการโรงพยาบาลเฉพาะทางได้เต็มรูปแบบในปี 23
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ เอเชียเวลท์ จำกัด แนะนำซื้อ ให้เหมาะสมที่ 3.40 บาทต่อหุ้น โดยคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49 %YoY โดยรายได้รวมเพิ่มขึ้น 10 %YoY โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้ภาพรวมผลการดำเนินงานTM ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 คลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้มี Pent up demand ของเคสผ่าตัดที่ถูกเลื่อนออกไปในช่วงก่อนหน้า ประกอบกับการเปิดประเทศ เป็นปัจจัยหนุนผู้ป่วยต่างชาติมีโอกาสกลับมาใช้บริการในประเทศมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ยอดขายอุปกรณ์และเครื่องมือผ่าตัดกลับมาฟื้นตัว รวมถึงประชาชนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อ ส่งผลให้สินค้าเกี่ยวกับ COVID-19 ยังเติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้TM ยังขยายช่องทางการขายออนไลน์ เพื่อเข้าถึงลูกค้า B2C เพิ่มขึ้น จากเดิมที่เป็นกลุ่มลูกค้า B2B นอกจากนี้ TM กำลังดำเนินโครงการ The Parents ซึ่งประกอบด้วย 3 ธุรกิจ ได้แก่ (1) โรงพยาบาล ซึ่งคาดแล้วเสร็จในปี2567 (2) สถานดูแลผู้สูงอายุ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดแล้วเสร็จในช่วง4Q65 และ(3) โรงเรียนสอนการบริบาล ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากสถานดูแลผู้สูงอายุใน ปี 2566
ข่าวเด่น