ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงในคืนวันศุกร์เกือบ 20 เหรียญ ท่ามกลางความกังวลในมาตรการคุมเข้มทางการเงินของเฟด ขณะที่ภาพรวมประธานเฟดสาขาต่างๆ สนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเพื่อลดภาวะเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ออกมาอยู่ในเกณฑ์ดี โดยตัวเลข Non-Farm Employment Change ปรับตัวสูงขึ้นกว่าคาด ทำให้ดัชนีดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นและทรงตัวอยู่เหนือบริเวณ 102 จุดอีกครั้ง โดยเช้านี้ดัชนีดอลลาร์อยู่ที่ 102.13 จุด ส่งผลให้ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าหลังจากที่แข็งค่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเช้านี้ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.41 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ภาวะสงครามยังคงดำเนินการต่อเนื่องโดยเริ่มมีกระแสข่าวว่ารัสเซียจะเริ่มบุกกรุงเคียฟ ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอีก ด้านกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวันศุกร์ถือครองทองเท่าเดิมที่ 1,066.04 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังขึ้นไปทดสอบที่บริเวณ 1,873 เหรียญ ก่อนมีแรงเทขายทำกำไรทำให้ราคาทองคำกลับลงมาอยู่ที่บริเวณ 1,851 เหรียญ ทองคำยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนในทิศทาง โดยในระยะสั้นคาดว่าจะเป็นการแกว่งในกรอบ Sideways ขณะที่กรอบใหญ่ยังคงเป็นแนวโน้มทิศทางขาลง ซึ่งราคาทองคำจะเป็นทิศทางขาลงอย่างสมบูรณ์ เมื่อหลุดระดับ 1,835 เหรียญไปได้ วันนี้ราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ 1,835 เหรียญ และแนวต้าน 1,865 เหรียญ
สำหรับ Gold Comex และ Gold Online Futures จะมีกรอบแนวรับ 1,835 เหรียญ และแนวต้าน 1,865 เหรียญ ด้านราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 30,000 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 30,400 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series M22 จะมีแนวรับที่ระดับ 30,170 บาท และแนวต้านที่ระดับ 30,500 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังคงแนะนำลงทุนในกรอบ Sideways ตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน จับตาดูการเคลื่อนตัวของราคา หากราคาทองคำหลุดแนวรับที่ 1,835 เหรียญได้ อาจทำให้ทองคำกลับมาเป็นทิศทางขาลงได้
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน ระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับเมื่อราคาย่อตัว
ข่าวเด่น