ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำดีดกลับขึ้นมาในลักษณะแกว่งตัวหลังจากลงไปที่ระดับ 1,835 เหรียญในเมื่อวาน โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อ รวมถึงราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งทำให้ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวอยู่ในกรอบระหว่าง 102.26 - 102.85 จุด ส่งผลให้ด้านค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าอยู่ที่ 34.37 - 34.51 บาท/ดอลลาร์ในเมื่อวานนี้ ภาพรวมตลาดยังคงรอคอยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ตลาดเพิ่มความกังวลในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยคาดว่าธนาคารกลางยุโรปเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25 - 0.50% ในการประชุมเดือนกรกฎาคม ขณะที่ไทยจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันนี้ โดยคาดว่าดอกเบี้ยจะคงเดิมที่ 0.50% ด้านกองทุนทองคำ SPDR ถือครองทองเท่าเดิมที่ 1,063.07 ตัน สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯวันนี้ ได้แก่ Crude Oil Inventories คาดการณ์ติดลบน้อยลงจากเดิม ในส่วนของเมื่อวานมีตัวเลข Trade Balance ออกมาดีขึ้นกว่าคาดการณ์
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังอยู่ในลักษณะการเคลื่อนตัวในกรอบ Sideways ระยะสั้น โดยวันนี้คาดว่าจะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบระหว่างแนวรับที่ 1,835 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,855 เหรียญ ภาพรวมราคาทองคำจะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบเพื่อรอสัญญาณข่าว กลยุทธ์การลงทุนยังเป็นการรอความชัดเจนของทิศทาง
สำหรับ Gold Comex และ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,835 เหรียญ และแนวต้าน 1,860 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 29,900 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 30,350 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series M22 จะมีแนวรับที่ระดับ 30,200 บาท และแนวต้านที่ระดับ 30,450 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังแนะนำลงทุนในกรอบตามทิศทางการเคลื่อนตัวของราคาในลักษณะ Sideways ลงซื้อขึ้นขาย ติดตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับเมื่อราคาย่อตัว
ข่าวเด่น