สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สภาวิชาชีพบัญชี) จัดประชุมประจำปี 2565 เพื่อร่วมหารือแนวทางการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของระบบรายงานทางการเงินไทย และสานต่อความร่วมมือในการผลักดันแผนงานในการยกระดับคุณภาพรายงานทางการเงินอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งร่วมลงนาม MoU โครงการเชื่อมโยงข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบประวัติการกระทำผิดหรือข้อบกพร่องของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565
ก.ล.ต. และสภาวิชาชีพบัญชี ร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์ เพื่อหารือแนวทางในการยกระดับคุณภาพรายงานทางการเงินไทยทั้งระบบ เช่น การจัดทำแนวทางการเปิดเผยข้อมูลตามมาตรฐานสากลเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) โดยสภาวิชาชีพบัญชี และ ก.ล.ต.
จะร่วมกันจัดสัมมนาเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูล ESG เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องและเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีสามารถให้บริการเกี่ยวกับการรับรองความถูกต้องของการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ESG ได้อย่างเหมาะสม การจัดหาเครื่องมือช่วยให้ผู้สอบบัญชีสามารถปฏิบัติงานสอบบัญชีได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการจัดให้มีคู่มือการสอบทาน
ความครบถ้วนของการเปิดเผยข้อมูลในหมายเหตุประกอบงบการเงิน โดยในการประชุมครั้งนี้ ได้จัดให้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) โครงการเชื่อมโยงข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบประวัติการกระทำผิดหรือข้อบกพร่องของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ระหว่างสองหน่วยงาน โดยนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. และนายวรวิทย์ เจนธนากุล นายกสภาวิชาชีพบัญชี
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ก.ล.ต. ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพรายงานทางการเงินของไทยทั้งระบบ โดยที่ผ่านมา ก.ล.ต. และสภาวิชาชีพบัญชีได้หารือแนวทางการบูรณาการเพื่อยกระดับคุณภาพรายงานทางการเงินและการกำกับดูแลคุณภาพการสอบบัญชีร่วมกัน รวมทั้งมุ่งมั่นสานต่อความร่วมมือในการผลักดันโครงการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพของรายงานทางการเงินและการคุ้มครองผู้ลงทุน ซึ่งเรื่องดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานหลายฝ่าย นอกจากนี้ การลงนามใน MoU ระหว่างสองหน่วยงานในครั้งนี้ จะช่วยให้ ก.ล.ต. สามารถดำเนินการพิจารณาให้ความเห็นชอบผู้สอบบัญชีในตลาดทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”
นายวรวิทย์ เจนธนากุล นายกสภาวิชาชีพบัญชี กล่าวว่า “สภาวิชาชีพบัญชีมีวัตถุประสงค์หลักคือ การส่งเสริมและพัฒนาวิชาชีพบัญชี ซึ่งความร่วมมือกับ ก.ล.ต. ครั้งนี้เป็นการทำหน้าที่เป็นตัวแทนของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีในการร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีให้ปฏิบัติงานในวิชาชีพได้
อย่างถูกต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งยังมีโครงการต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น การปรับปรุงจรรยาบรรณวิชาชีพบัญชีของไทยให้สอดคล้องกับสากล แนวทางการส่งเสริมให้ผู้มีส่วนได้เสียเห็นคุณค่าของงานสอบบัญชี รวมทั้งการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 และพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547 ซึ่งสภาวิชาชีพบัญชีจะได้มีการแจ้งความก้าวหน้าในเรื่องดังกล่าวให้ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีทราบเป็นระยะไป”
ข่าวเด่น