คาด SET ยังได้รับปัจจัยกดดันหลักจากภาวะเงินเฟ้อในระดับสูง ทำให้บรรดาธนาคารกลางต้องเร่งขึ้น ดอกเบี้ย โดยวันนี้ติดตามประชุม ECB ที่คาดมีการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย ด้าน SET มีแนวรับที่ 1630 จุด หากต่ำกว่า จะเป็นสัญญาณลบต่อ และมีแนวรับถัดไปที่ 1622 จุด ส่วนกรอบบนยังถูกจำกัดที่แนวต้าน 1640-1650 จุด
ประเด็นสำคัญ
Fed สาขา Atlanta เผย GDP tracker คาด GDP2Q65 โต 0.9% จากเดิมคาด 1.3% หลัง 1Q65หดตัว 1.5% เสี่ยงเกิด ศ.ก. ถดถอยทางเทคนิค
• ประชุม ECB วันนี้ คาดส่งสัญญาณขึ้น ด.บ. และยุติมาตรการ QE ภายใน 3Q65
• กนง. มติไม่เอกฉันท์คง ด.บ. 0.5% มองนโยบายการเงินผ่อนคลายจำเป็นลดลง เตรียมหาจังหวะเหมาะสมขึ้น ด.บ. แต่ปรับคาดการณ์ GDP ปีนี้เป็น 3.3% จาก 3.2% ปีหน้า 4.2% จาก 4.4%
กลยุทธ์การลงทุน
เรามองความเสี่ยงของเศรษฐกิจยังอยู่ในระดับสูงโดยตัวเลขเศรษฐกิจในช่วง มิ.ย. ถึงสิ้นปีนี้จะอยู่ในแนวโน้มชะลอตัวลงจากวิกฤตราคาพลังงานและอาหารที่ยังปรับตัวสูงขึ้นจากปัญหาด้านอุปทานที่ตึงตัว กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในหุ้นปลอดภัยที่มีคุณภาพดี และ/หรือ มีปัจจัยบวกเฉพาะ
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : มุมมองการลงทุนยังเป็นไปอย่างระมัดระวัง ดังนั้นจึงแนะนำเลือกลงทุนในหุ้นปลอดภัยที่มีคุณภาพดี และ/หรือ มีปัจจัยบวกเฉพาะ ดังนี้
1) หุ้นที่กำไรมีโมเมนตัมดีหรือฟื้นตัวตั้งแต่ 2Q65 เลือก IVL AMATA MTC CPALL OSP
2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) อยู่ในทิศทางขาขึ้น เลือก BLA
3) หุ้นที่ได้อานิสงส์จากบาทอ่อน และ/หรือ จากวิกฤติราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้น เลือก GFPT CPF
Daily Focus
AOT ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง จำนวน นทท. ต่างชาติเดินทางเข้าไทยเร่งตัวขึ้น (เม.ย. +39%MoM พ.ค. +81%MoM) หลังผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทาง ราคาหุ้นยังต่ำกว่าก่อนเกิดโควิด-19 อยู่ 6% และขึ้นน้อยกว่าหุ้นอื่นๆ ในกลุ่มท่องเที่ยวที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2-20%
PTTEP ได้ประโยชน์จากตลาดน้ำมันโลกตึงตัวหลังอุปทานหายไปจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ขณะที่อุปสงค์ฟื้นตัว หลายประเทศคลายล็อกดาวน์ คาดหนุนให้ช่วงที่เหลือปีนี้มีกำไรแข็งแกร่งจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวสูงและมีความเสี่ยง Hedging Loss ที่น่าจะลดลง
ข่าวเด่น