คาด SET การฟื้นตัวจำกัด โดยมีแนวต้านที่ 1570 และ 1578 จุด ตามลำดับ เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยหนุน ขณะที่ภาพรวมยังมีแนวโน้มปรับตัวลงได้ต่อโดยมีแนวรับถัดไปที่ 1545-1550 จุด ด้วยปัจจัยกดดันหลักจากความกังวลเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย จากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และเงินบาทที่อ่อนค่า เป็นปัจจัยลบต่อทิศทาง fund flow ให้ไหลออก
ประเด็นสำคัญ
สำนักวิจัยหลักหลายแห่งคาด ศก. ยูโรโซน, UK,ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย แคนาดาจะเข้าสู่ภาวะถดถอยตามสหรัฐในอีก 12 เดือนข้างหน้า
• วันนี้ติดตามรายงานเงินเฟ้อ มิ.ย. คาด 7.5%YoYส่วนประชุม ครม. พิจารณาตั้ง คกก. 2 คณะดูแลวิกฤตอาหาร-พลังงาน ตามที่ สมช. เสนอ
• กบน.ตรึงราคาดีเซล 35 บ./ลิตรต่อเป็นสัปดาห์ที่ 3 หลัง ครม.มีมาตรการอุดหนุน 50% ในส่วนที่ราคาขายสูงกว่า 35 บ./ลิตร ตั้งแต่ ก.ค. – ก.ย.
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนสูง และอย่าเพิ่งคาดหวังการฟื้นตัวที่เร็วแรง เพราะนอกจากขาดปัจจัยหนุนแล้ว ภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่สดใส มีแรงกดดันจากเฟดส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินตึงตัวเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ทำให้ความเสี่ยงเกิดเศรษฐกิจถดถอยมีเพิ่มขึ้น กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในหุ้นที่ปลอดภัยที่มีคุณภาพดี และ/หรือ มีปัจจัยบวกเฉพาะ
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : ตลาดหุ้นไทยยังผันผวนสูงจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย มุมมองการลงทุนจึงยังเป็นไปอย่างระมัดระวังและต้องเลือกกลุ่มลงทุนมากขึ้น แนะนำเน้นหุ้นปลอดภัยที่มีคุณภาพดี และ/หรือ มีปัจจัยบวกเฉพาะ ดังนี้
1) หุ้นที่คาดโมเมนตัมกำไรเติบโตดี และได้ประโยชน์จากตลาดตะวันออกกลางที่มีก าลังซื้อหรือเศรษฐกิจเติบโตดี เลือก OSP CBG CPF GFPT SAT VNG BH
2) หุ้นพลังงานซึ่ง 2Q65 คาดกำไรยังเติบโตเด่น จากราคาน้ำมันและค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น และแนวโน้มตลาดพลังงานที่ยังตึงตัว เลือก BCP PTTEP
3) หุ้นธนาคารซึ่งคาดพรีวิวงบ 2Q65 กำไรเติบโตดีทั้ง YoY และ QoQ อีกทั้งได้อานิสงส์จากวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น เลือก KBANK BBL
Daily Focus
PTTEP มองราคาหุ้นจะได้ประโยชน์ต่อเนื่องจากภาวะตลาดน้ำมันโลกที่ยังตึงตัว ขณะที่กำไรสุทธิ 2Q65 คาดจะเพิ่มขี้นเท่าตัว QoQ สู่2.04 หมื่นลบ. (ประกาศ 1 ส.ค.) เนื่องจากมีผลขาดทุนจากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันลดลงและราคาน้ำมันดิบแข็งแกร่งขี้น
ADVANC มุมมองบวกเล็กน้อยต่อการเข้าซี้อหุ้น 99% ของ TTTBB (บ.ย่อยของ JAS) ท้าธุรกิจ fixed broadband มูลค่า 1.95 หมื่นลบ.และเข้าซี้อหน่วยลงทุน 19% ของ JASIF จาก JAS มูลค่า 1.29 หมื่นลบ.หากธุรกรรมนี้ สำเร็จคาดหนุนกำไรปี 66 เพิ่มขื้น 2.9%
ข่าวเด่น