ซีเอสอาร์-เอชอาร์
ธนาคารกรุงเทพ หนุน ม.ธรรมศาสตร์ "พายเรือเพื่อแม่น้ำสามคลอง" ชวนพนักงานจิตอาสารณรงค์ลดทิ้งขยะลงแม่น้ำ - ฟื้นฟูคุณภาพชีวิตชุมชนริมฝั่งคลอง


 
ธนาคารกรุงเทพ สนับสนุนอุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี และคณะสังคม สงเคราะห์ศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ จัดโครงการ “พายเรือเพื่อแม่น้ำสามคลอง” ชวนจิตอาสา ร่วมพายเรือเก็บขยะ คลองบางกอกน้อย คลองอ้อมนนท์ และคลองบางกรวย รณรงค์ลดปัญหาขยะไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยา-อ่าวไทย ช่วยฟื้นฟูคุณภาพชีวิตชุมชน-ประวัติศาสตร์ริมฝั่งคลอง ย้ำนโยบายดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน รับผิดชอบต่อสังคม พร้อมเป็น “เพื่อนคู่คิด” เคียงข้างลูกค้า-สังคมไทยในระยะยาว
 
 

 
 
นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพ ได้ร่วมสนับสนุนโครงการ “พายเรือเพื่อแม่น้ำสามคลอง” จัดโดยอุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี และคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน ร่วมกันเป็นจิตอาสาเข้าร่วมกิจกรรมเก็บขยะในคลองบางกอกน้อย คลองอ้อมนนท์ และคลองบางกรวย เพื่อลดปริมาณขยะในแม่น้ำลำคลอง ซึ่งจะช่วยลดปัญหาขยะที่จะไหลไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยาและอ่าวไทย ขณะเดียวกันยังกระตุ้นจิตสำนึก รณรงค์ให้คนไทยร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ทิ้งขยะลงแม่น้ำลำคลอง สอดคล้องกับเจตนารมย์ของธนาคารกรุงเทพ ที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสังคม
 

 
สำหรับกิจกรรมในโครงการ “พายเรือเพื่อแม่น้ำสามคลอง” ธนาคารได้จัดส่งพนักงานร่วมเป็นจิตอาสาพายเรือเก็บขยะร่วมกับอาสาสมัครนักพายเรือคายัคกว่า 200 ลำ โดยมีเป้าหมายร่วมกันที่ต้องการเห็นแม่น้ำลำคลองสะอาด ลดปัญหาขยะที่จะไหลลงลงสู่อ่าวไทย ทั้งยังช่วยฟื้นฟูแหล่งน้ำ และส่งเสริมชุมชนสองฝั่งคลองมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยการเก็บขยะครั้งนี้สามารถรวบรวมได้ 221 กิโลกรัม ในจำนวนนี้เป็นขยะที่สามารถนำกลับมารีไซเคิล 84 กิโลกรัม หรือ 1 ใน 3 ของขยะที่เก็บได้ทั้งหมด
 

 
นายทวีลาภ กล่าวอีกว่า ธนาคารสนับสนุนให้ผู้บริหารและพนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ต่างๆ ทั้งที่จัดขึ้นโดยธนาคาร และความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก เพราะจะช่วยให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญ และเกิดจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับกิจกรรมในโครงการ “พายเรือเพื่อแม่น้ำสามคลอง” ที่มีผู้บริหารและพนักงานธนาคารตอบรับเป็นจิตอาสาเข้าร่วมกิจกรรมค่อนข้างดี หลายคนตั้งใจเลือกใช้วันหยุดของตนเองเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมนี้ และมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมถึงการได้รับรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ชุมชน และการเป็นตัวแทนของธนาคารเพื่อร่วมกิจกรรมนี้อีกด้วย
 

 
 
“ธนาคารให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ครอบคลุมทั้งมิติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือ ESG (Environment, Social and Governance) ด้วยเป้าหมายที่ต้องการสร้างคุณค่าให้แก่สังคมไทยในระยะยาว การบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิผล และตัดสินใจทางธุรกิจโดยคำนึงถึงประโยชน์ระยะยาวของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างรอบคอบ ซึ่งสอดคล้องกับความตั้งใจจะเป็น “เพื่อนคู่คิด” กับลูกค้าและสังคมไทย ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนประเทศสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต” นายทวีลาภ กล่าว
 

 
ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ประธานกรรมการบริหารการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะผู้จัดกิจกรรม “พายเรือเพื่อแม่น้ำสามคลอง” กล่าวว่า คลองบางกอกน้อย คลองอ้อมนนท์และคลองบางกรวย ถือเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยาสายหลักในอดีตของชาวกรุงเทพมหานคร ชาวนนทบุรี และชาวบางกรวย การจัดกิจกรรมเก็บขยะใน 3 คลองดังกล่าว จึงช่วยลดปริมาณขยะในแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะไหลลงไปสู่อ่าวไทย ทั้งยังช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ทราบถึงสถานการณ์ปัญหาขยะในแหล่งน้ำ นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านการกำจัดขยะอย่างถูกวิธี รวมถึงการศึกษาทรัพยากรธรรมชาติและประวัติศาสตร์ของริมสองฝั่งคลองอีกด้วย
 

 
ในปัจจุบัน ประเทศไทยเป็นประเทศที่ปล่อยขยะลงทะเลมากที่สุด เป็นอันดับ 6 ของโลก โดย 80% ของขยะมาจาก แม่น้ำลำคลองสายหลักๆ ที่ไหลลงสู่อ่าวไทย ขยะเหล่านั้นส่วนใหญ่ เป็นขยะพลาสติกใช้เวลาในการย่อยสลายเป็นพันปี ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมกระทบต่อทะเล มหาสมุทร กระทบต่อสัตว์น้ำในทะเล เช่น ปลาวาฬ เต่า ที่ต้องตายจากขยะพลาสติก เป็นจำนวนมากทุกปี และยังก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพอีกด้วย จึงทำให้ในปี 2561 และปี 2562 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย จัดกิจกรรม “พายเรือเพื่อเจ้าพระยา : เก็บขยะจากปากน้ำโพถึงอ่าวไทย” ในจังหวัดต่างๆ ทั้ง 10 จังหวัดที่แม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน จึงทำให้จำนวนขยะที่ไหลลงอ่าวไทยจาก แม่น้ำสายต่างๆ เริ่มลดน้อยลง เป็นผลให้อันดับของประเทศไทยจากอันดับ 6 ที่ทิ้งขยะลงทะเลมากที่สุดได้กลาย เป็นอันดับ 10 ในปี 2563 ทั้งนี้ จากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้พฤติกรรมการใช้พลาสติกกลับมามีปริมาณมากขึ้น ซึ่งทำให้อันดับประเทศทิ้งขยะลงทะเลมากที่สุดของไทยกลับมาอยู่ที่อันดับ 6 จากอันดับ 10 ในปี 2564 จึงยังคงเดินหน้าต่อยอดกิจกรรมลักษณะดังกล่าว เพื่อแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่องและสร้างความยั่งยืนในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของประเทศไทยต่อไป
 
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 25 ก.ค. 2565 เวลา : 17:08:05
27-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 27, 2024, 8:38 am