แม้ตลาด NFT จะยังไม่กลับมาร้อนแรงเท่ากับในปีที่แล้ว 2021 แต่ก็มีข่าวและสัญญาณดีๆ อยู่หลากหลายเรื่อง ที่ถือเป็นโอกาสที่ดีให้กับตลาด NFT ที่ค่อยๆ คืบคลานทำความรู้จักกับคนหลากหลายกลุ่ม บ่มเพาะสะสมกำลังคนที่ยอมรับใน NFT และก้าวเข้าสู่การเปิดรับในวงกว้าง หรือการเป็น Mass Adoption ในเร็วๆ นี้
ในช่วงปี 2022 นี้ที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปี อาจเป็นเรื่องที่น่าใจหายว่า Volume หรือยอดการซื้อขายในตลาด NFT นั้นลดหายลงไปแบบฮวบฮาบ จากรายงานล่าสุดของทาง Bloomberg ระบุว่ายอดขาย NFT ในเดือนมิถุนายนปีนี้ มียอดขายต่ำกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มิถุนายนของปี 2021 และราคาของชิ้นงาน NFT ที่อยู่ในตลาด ก็มีมูลค่าหรือราคาที่ลดต่ำลง ทำเอานักลงทุนที่เคยซื้องาน NFT มาก่อนหน้านี้ต่างขาดทุนกันเป็นระนาว แต่จริงๆ หากดูไส้ในให้ดี สาเหตุหลักนั้นมาจากตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างคริปโต เข้าสู่สภาวะตลาดหมี อันเนื่องมาจากทั้งการเกิดสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ทำให้เกิดปัญหาทั้งเรื่อง Supply Shock สภาวะเงินเฟ้อลุกลามไปยังทั่วโลก และพุ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ หรือจะเป็นวิกฤติ Sell in May ที่ผ่านมาในเดือนพฤษภาคม ทำให้มูลค่าของ Bitcoin เคยทำราคา All Time High สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันที่ 10 พฤศจิกายน ปี 2021 โดยมีมูลค่าอ้างอิงจากกระดานเทรด Binance อยู่ที่ 69,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ล่าสุดมูลค่าของ Bitcoin นั้นเทกระจาดลงมาแตะที่ระดับต่ำสุด ประมาณ 17,622 ดอลลาร์สหรัฐ ในวันที่ 18 มิถุนายน ปี 2022 ก่อนทำ Sideway ที่ระดับ 22,000 - กลางๆ 23,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ เมื่อราคาของเหรียญคริปโตในตลาดมีการปรับตัวลดลงมา จึงไม่แปลกที่ NFT ที่ถือว่าเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลเหมือนกันและใช้เหรียญคริปโตในการซื้อขายเป็นหลักจะมีมูลค่าลดหลั่นตามกันไป
ถึงแม้จะมีสาเหตุจากสภาวะเศรษฐกิจ ปัจจัยใหญ่ที่ทำให้เงินทุนหลั่งไหลออกไปจากตลาดเพื่อการตั้งรับกับสภาวะเงินเฟ้อ แต่หลายๆ คนก็อาจยังมีความรู้สึกกังวลใจว่า ตลาด NFT กำลังอยู่ในช่วงฟองสบู่หรือไม่ เพราะเราเห็นการเติบโตที่ดูมาเร็วไปเร็วอย่างมากในวงการเกมแบบ Play to Earn ที่โปรเจกต์ NFT ผุดขึ้นมามากมาย หรือเรื่องของ Metaverse ที่เป็น Talk of the Town ไปช่วงหนึ่งหลังจากการเปลี่ยนชื่อของบริษัท Meta ก่อนลดความร้อนแรงลงไป ทำให้มีข้อกังขาถึง Utility ของโปรเจกต์ NFT ที่มีอยู่ในตลาดว่าจะสามารถใช้ประโยชน์ได้จริงหรือไหม
แต่จริงๆแล้ว NFT ถือว่าเป็นเรื่องที่ใหม่มาก และยังอยู่ในเฟสของการเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งอายุวงการของมันถือว่ายังน้อยกว่า เหรียญคริปโต (ที่ยังไม่เกิดการ Mass Adoption เช่นกัน) ยังต้องอาศัยระยะเวลาให้คนส่วนใหญ่นั้นได้เรียนรู้ถึงคุณค่า และวิธีการก้าวผ่านเข้าสู่โลกของ Digital Asset ซึ่งในปัจจุบันนี้บริษัทรายใหญ่ๆ ก็ต่างกำลังเปิดประตู เชื่อม NFT กับกลุ่มคนของตัวเองที่เป็นในระดับสาธารณะ อย่างเช่นสื่อโซเชียล Twitter ก็เปิดให้สามารถเชื่อมกระเป๋า Cryto Wallet นำ NFT มาตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ หรือว่าจะเป็น Instagram ของทาง Meta ก็มีฟีเจอร์ NFT ที่ผู้ใช้งาน Instagram สามารถเชื่อมต่อ Crypto Wallet ของตนเองเข้ากับบัญชี และโพส NFT ลงได้ โดยรองรับกระเป๋าเงินบุคคลที่สาม เช่น Rainbow, MetaMask, Trust Wallet, Coinbase Wallet และ Dapper Wallet โดยบล็อกเชนที่รองรับในขณะนี้ ได้แก่ Ethereum, Polygon และ Flow ซึ่งวันที่ 4 สิงหาคม ที่ผ่านมา มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก CEO ของ Meta ก็ได้ออกมาประกาศว่าจะขยายฟีเจอร์ NFT Instagram ไปยังอีก 100 ประเทศในแอฟริกา เอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และสหรัฐอเมริกา เป็นผลให้ผู้ใช้งานและเข้าถึง รู้จัก NFT มีจำนวนมากขึ้น
มาที่ฝั่งประเทศไทยบ้านเราก็มีสัญญาณที่ดีเช่นกัน อย่าง Stock2morrow บริษัทที่เป็นศูนย์รวมองค์ความรู้ในเรื่องของหุ้นและการลงทุน ที่ได้รับการยอมรับมากว่า 16 ปี โดยล่าสุดนั้นได้ออกคอลเลคชั่น NFT แรกของตัวเอง ในโปรเจกต์ที่ชื่อ “BULLMOON Club NFT” ผู้ที่ถือ NFT ชิ้นนี้ จะได้สิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟ กับกูรูและนักธุรกิจจำนวนมากในวงการลงทุน สิทธิ์ร่วมงานเน็ตเวิร์กกิ้งต่างๆ ของสมาชิก BullMoon Club NFT สิทธิ์เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจและสิทธิประโยชน์จากเครือข่ายธุรกิจในอนาคต ซึ่งคุณประโยชน์นี้บวกกับความเป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับในแวดวงนักลงทุน ก็จะดึงคอมมูนิตี้ของตนให้เกิดการ Adoption Digital Asset และ NFT ที่ขยายวงกว้างมากขึ้น หรือจะเป็นโปรเจกต์ NFT Apetimism ที่อยู่บนเครื่อข่ายบล็อกเชน Optimism ที่เปิดให้ซื้อขายกันผ่านเว็บไซต์ quixotic.io (ทาง AC News ได้เคยแนะนำไปแล้วในสกู๊ป “แนะนำวิธีซื้อขาย NFT บน Ethereum L2 ผ่านเครือข่าย Optimism ง่ายๆ แถมค่า Gas ถูกลงมาก”) ก็กำลังมีโปรเจกต์ NFT ที่ Collab ร่วมกับทางไปรษณีย์ไทย ถือว่าเป็นการร่วมมือกับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของไทยที่จะทำให้การยอมรับ NFT ในไทยขยายกว้างมากกว่าเดิม
พร้อมกันนี้ MarketsandMarkets เผยว่า ตลาด NFT คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 4.5 เท่า ภายในปี 2027 ซึ่งหมายความว่าตลาดจะเติบโตสูงถึง 13,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในสิ้นปี 2027 จากมูลค่าตลาดที่มีอยู่ในปัจจุบันที่ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงเป็นไปได้ว่าตลาด NFT ที่อยู่ในช่วงขาลงตอนนี้อาจเป็นเรื่องที่ปกติตามความผันผวนของตลาด ที่ตอนนี้เพียงแค่อยู่ในช่วงตลาดหมีเท่านั้น รวมถึงปัจจัยที่เราจะเริ่มได้เห็นบทบาทของ NFT ในอุตสาหกรรมต่างๆ มากขึ้นอย่างชัดเจนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ข้อสนับสนุนดังกล่าวจึงทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่า NFT กำลังอยู่ในช่วงสัญญาณดีที่น่าจะเข้าใกล้การเกิด Mass Adoption ในระดับสาธารณะได้ในเร็ววัน
ที่มา
-https://about.fb.com/news/2022/05/introducing-digital-collectibles-to-showcase-
-https://www.bloomberg.com
ข่าวเด่น