เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.ไทยพาณิชย์วิเคราะห์ "Upside ระยะสั้นจำกัด รอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ"


 
คาด SET ยังมี upside ระยะสั้นจำกัดบริเวณ 1610-1620 จุด และระวังการอ่อนตัว จากแรงขายทำกำไร เพื่อลดความเสี่ยงก่อนรายงานเงินเฟ้อสหรัฐในวันพุธนี้ รวมถึงตัวเลขจ้างงานสหรัฐเมื่อสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้นเกินคาด สร้างความกังวลต่อการเร่งขึ้น ดอกเบี้ยของเฟด ด้านกรอบล่างอยู่ที่แนวรับ 1594 และ 1586 จุด หากต่ำกว่า จะเริ่มเป็นสัญญาณลบ

ประเด็นสำคัญ
 
ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร ก.ค. สหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาด ตลาดกลับมากังวล Fed ขึ้นด.บ. แรง 0.75% การประชุม 20-21 ก.ย.
 
• จีนเกินดุลการค้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังส่งออก ก.ค. โตถึง 18%YoY คลายความกังวลอุปสงค์โลกชะลอตัว
 
• ติดตามสถานการณ์จีน-ไต้หวันที่อาจกระทบห่วงโซ่อุปทาน หลังจีนปิดน่านฟ้า-น่านน้ำเพื่อซ้อมรบ 4-7 ส.ค. ที่ผ่านมา
 
• ก.แรงงานเตรียมพิจารณาขึ้นค่าจ้างขั้นต่ า 5-8% ภายใน ส.ค. นี้ คาดมีผลบังคับใช้ไม่เกินสิ้นปีนี้
 
• เงินเฟ้อไทย ก.ค. +7.61%YoY ต่ำกว่าคาด ทำให้การประชุมกนง. 10 ส.ค. นี้ มีโอกาสที่จะขึ้นด.บ.เพียง 0.25%
 
• สัปดาห์นี้ติดตามประเด็นต่างประเทศ 10 ส.ค. เงินเฟ้อ ก.ค. สหรัฐ และจีน, 11 ส.ค. ดัชนีราคาผู้ผลิต ก.ค. สหรัฐ, 12 ส.ค. GDP 2Q65 ของ UK
 
กลยุทธ์การลงทุน
 
แม้ตลาด การเงินเริ่มผ่อนคลายขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เงินเฟ้อพื้นฐาน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มชะลอตัวลง ทำให้เป็นไปได้ว่าเฟดจะเปลี่ยนท่าทีต่อนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น แต่สัปดาห์นี้มองตลาดหุ้นไทยจะยังผันผวนขึ้นอยู่กับการเก็งกำไรงบ 2Q65 รวมทั้งจับตาการประชุมนโยบายการเงินของ กนง. (10
ส.ค.) เพื่อดูการส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะและ/หรือ มีโมเมนตัมกำไรฟื้นตัวดี
 
ล็อคเป้าลงทุน
 
Weekly Portfolio : ภายใต้ภาวะตลาดยังอยู่ในช่วงประกาศผลประกอบการของกลุ่ม real sector จึงเน้นเลือกกลุ่มลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ และ/หรือ มีโมเมนตัมก าไรดี ดังนี้
 
1) หุ้นได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวฟื้นตัวซึ่งคาดผลการดำเนินงาน 2Q65 เติบโตดี
ทั้ง YoY และ QoQ เลือก ERW MINT CRC AOT
 
2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น เลือก BBL KBANK KTB
 
3) หุ้นพลังงานซึ่งคาดกำไร 2Q65 เติบโตดี และมองราคาน้ ามันปรับตัวลงมาในจุดที่
น่าสนใจแล้ว เลือก PTT BCP ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้
 
1) หุ้นที่ได้ผลลบจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ขาลงหลังปัญหาขาดแคลนอุปทานคลี่คลาย
อาทิ กลุ่มปาล์ม (UVAN, UPOIC, VPO, CPI, LST) กลุ่มแป้ง (TMILL, TWPC)
 
2) หุ้นที่คาดมีโอกาสปรับลดประมาณการหลังประกาศงบ 2Q65 อาทิ NRF, TU,
TRUE
 
3) หุ้นกลุ่มเดินเรือเทกอง อาทิ PSL TTA ซึ่งคาดได้Sentiment ลบจากการปรับตัว
ลงต่อเนื่องของดัชนี BDI โดยล่าสุด BDI Index ปรับลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 10 ราว 2.7%
DoD สู่ระดับ 1560 จุดต่ำสุดในรอบ 6 เดือน 
 
Daily Focus
 
BBL ได้ประโยชน์มากสุดจากดอกเบี้ยขึ้น คาดจะเป็น ธ.พ. แห่งเดียวที่กำไร 2H65 เพิ่มขึ้น HoH และฟื้นตัวขึ้นมาก YoY หนุนจากการเร่งตั้งสำรองใน 1H65 กำรปล่อยสินเชื่อได้สูงใน 2H65 และ NIM ขยายตัวปรับขึ้นดอกเบี้ย รวมทั้งความเสี่ยงด้านคุณภำพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ
 
 
SCGP 3Q65 ตลาดคาดกำไรปกติจะดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ แรงหนุนจากฐานต่ำปีก่อน การปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ครอบคลุมต้นทุนที่สูงขึ้น อุปสงค์ในประเทศที่ดีขึ้นขึ้น และกำรส่งออกไปจีนมากขึ้น รวมทั้งยังรับรู้กำไรเพิ่มเติมจากการเข้าซื้อกิจการ Peute
 
 

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 08 ส.ค. 2565 เวลา : 12:13:47
15-05-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 15, 2025, 12:33 pm