
คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1600-1628 จุด โดยปัจจัยหนุนยังมาจาก fund flow แรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ หลังเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องอย่างไรก็ตาม คาด upside ในระยะสั้นยังจำกัด เนื่องจากนักลงทุนในตลาดรอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในคืนนี้ว่าจะชะลอตัวตามที่คาดหรือไม่ ส่วนประชุมกนง.ในวันนี้ ตลาดคาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25%
ประเด็นสำคัญ
ราคาน้ำมันอาจผันผวนระยะนี้ โดยยูเครนระงับส่งน้ำมันให้ยุโรปเนื่องจากไม่ได้รับเงินค่าขนส่งน้ำมันจากรัสเซียเป็นปัจจัยหนุนราคาขึ้นช่วงสั้น ขณะที่อิหร่าน-ชาติมหาอำนาจใกล้บรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์จะเป็นปัจจัยกดดันราคาลงในระยะถัดไป
• จีนระงับการส่งออกทรายที่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ไปยังไต้หวัน อาจเกิดปัญหาขาดแคลนชิป ขณะที่ ปธน.ไบเดน เตรียมลงนามร่างกม.หนุนผลิตชิปสหรัฐเพื่อแข่งขันกับจีน
• ก.แรงงานเตรียมเสนอ ครม ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำต้นเดือน ก.ย. เพื่อมีผลใช้ 1 ต.ค. คาดปรับขึ้น 5-8%
• ครม. เห็นชอบพัฒนาท่องเที่ยว-เกษตร-เมืองการบิน EEC
• กสทช. ยังไม่สรุปดีลควบรวม TRUE-DTAC ในวันนี้ โดยยังอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลจาก สนง.กสทช. ให้ครบถ้วน
• วันนี้ติดตามประชุม กนง. และรายงานเงินเฟ้อสหรัฐ ก.ค.
กลยุทธ์การลงทุน
แม้ตลาดการเงินเริ่มผ่อนคลายขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจ สหรัฐฯ เงินเฟ้อพื้นฐาน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์เริ่ม ชะลอตัวลง ทำให้เป็นไปได้ว่าเฟดจะเปลี่ยนท่าทีต่อ นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น แต่สัปดาห์นี้มอง ตลาดหุ้นไทยจะยังผันผวนขึ้นอยู่กับการเก็งกำไรงบ 2Q65 รวมทั้งจับตาการประชุมนโยบายการเงินของ กนง. (10 ส.ค.) เพื่อดูการส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย กลยุทธ์ลงทุน จึงแนะนำ “Selective Buy” ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ และ/หรือ มีโมเมนตัมกำไรฟื้นตัว
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : ภายใต้ภาวะตลาดยังอยู่ในช่วงประกาศผลประกอบการของกลุ่ม real sector จึงเน้นเลือกกลุ่มลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ และ/หรือ มีโมเมนตัมกำไรดี ดังนี้
1) หุ้นได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวฟื้นตัวซึ่งคาดผลการดำเนินงาน 2Q65 เติบโตดีทั้ง YoY และ QoQ เลือก ERW MINT CRC AOT
2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น เลือก BBL KBANK KTB
3) หุ้นพลังงานซึ่งคาดกำไร 2Q65 เติบโตดีและมองราคาน้ำมันปรับตัวลงมาในจุดที่น่าสนใจแล้ว เลือก PTT BCP
ประเด็นข่าวกระทรวงแรงงานจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-8% เบื้องต้นจากการศึกษาผลกระทบของการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่มีต่อประมาณการกำไรปี 2566 ของ บจ. พบว่า หากมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-10% จะกระทบต่อกำไรสุทธิของตลาดลดลงราว 2-5% โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดจะได้รับผลกระทบเชิงลบมากสุด นำโดย กลุ่มขนส่งพัสดุ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (กระทบกำไรลงราว 6-12%) และกลุ่มอาหาร (กระทบกำไรลงราว 10%)
Daily Focus
THREL คาด 3Q65 และ 4Q65 กำไรจะฟื้นตัวกลับมาเติบโตแข็งแกร่ง YoY จากมาร์จิ้นที่ดีขึ้นเพราะอัตราค่าสินไหมทดแทนลดลง ขณะที่กลยุทธ์ S-Curve ส่งผลให้บริษัทขยายธุรกิจสู่ตลาดใหม่ๆ ช่วยหนุนความสามารถ ในการทำกำไรและการเติบโตของเบี้ยประกันภัยต่อรับปรับตัวดีขึ้น PTT 2Q65 คาดก่าไรเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ จากราคาน้ำมันและค่าการกลั่นแข็งแกร่ง หนุนกำไรธุรกิจ E&P และธุรกิจ P&R อีกทั้งผลกระทบ ที่น้อยลงจากขาดทุนสัญญาประกันความเสี่ยง นอกจากนี้ยังมี Upside Risk เงินปันผลระหว่างกาล เป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้น
ข่าวเด่น