สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ หรือ STI กางแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง ในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) ติดสปีดลุยรับงานใหม่ แจงอุตสาหกรรมก่อสร้างฟื้น งานประมูลกลับมาคึกคักทั้งภาครัฐ-เอกชน โดยปัจจุบันจ่อชิงงานเมกะโปรเจกต์ระดับแถวหน้าของประเทศเข้ามาเสริมพอร์ต หนุน Backlog ทะยานทำ All Time High อยู่ที่ 4,800 ล้านบาท
นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI กลุ่มผู้นำในธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างครบวงจร กางแผนกลยุทธ์ครึ่งปีหลังเติบโตกว่าครึ่งปีแรก จากแรงกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐบาลและเอกชน ทำให้เป็นโอกาสชิงงานเข้าพอร์ตได้ต่อเนื่อง สนับสนุนการเติบโตของรายได้อย่างมีเสถียรภาพ โดยปัจจุบัน กลุ่ม STI มีงานในมือ (Backlog) พุ่งทะยานแตะระดับ 4,800 ล้านบาท ทำ All Time High และเตรียมทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 2-3 ปีจากนี้ พร้อมกับการรักษาความสามารถในการทำกำไรที่ดี ขณะที่ ทิศทางครึ่งปีหลังคาดจะสดใสเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยันปัจจัยด้านฤดูกาลสภาวะน้ำท่วมในปัจจุบัน จะไม่ส่งผลกระทบต่อการรับรู้รายได้ของบริษัทฯ
ปัจจุบันกลุ่ม STI มีโครงการในมือทั้งหมดร่วมกว่า 130 โครงการ ซึ่งเป็นงานบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง 95 โครงการ งานออกแบบ 11 โครงการ และงานอื่นๆ อีก 25 โครงการ ซึ่งเป็นงานในหลากหลายประเภทอุตสาหกรรมที่ STI ได้ขยายความชำนาญไปพร้อมกับโอกาสใหม่ๆ ได้แก่ โครงการอสังหาริมทรัพย์ภาคเอกชน ประเภท โรงพยาบาล อาคารสำนักงาน คลังสินค้า คอนโดมิเนียม รวมไปถึงงานโครงการศูนย์ประชุม โดยล่าสุด STI ได้ส่งมอบงานโครงการศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และมีการรับรู้รายได้เข้ามาเรียบร้อยแล้วในช่วงต้นเดือนกันยายน สะท้อนความสำเร็จในการบริหารโครงการระดับแถวหน้าของเอเชีย สร้างความแข็งแรงของพอร์ต
นอกจากนี้ ปัจจุบันกลุ่มบริษัทยังมีงานโครงการที่อยู่ระหว่างทยอยส่งมอบในช่วงโค้งสุดท้ายของปีจำนวนมาก ได้แก่ งานที่ปรึกษาคุมงานก่อสร้างโครงการสวนป่าเบญจกิติ ระยะที่ 2 และ 3, โครงการศูนย์การค้าเทอมินอล 21 พระราม 3, โครงการ One Bangkok และ โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้แก่ โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ระยะที่ 1 โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน, โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 (ส่วนที่ 1-4) และโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมใบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1) รวมไปถึง งานโครงสร้างพื้นฐาน โครงการรถไฟฟ้า และงานโครงการขนาดใหญ่อื่นๆ ก็เร่งเดินหน้า เนื่องจากสถานการณ์ของการแพร่ระบาดโควิดคลี่คลายลง แผนการลงทุนของภาครัฐ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาในช่วงครึ่งปีหลัง สนับสนุนบรรยากาศการลงทุนคึกคัก
“สำหรับไฮไลท์การประมูลคาดจะได้เห็นในช่วงโค้งสุดท้ายของปีเพิ่มเติมอีก จากงานเมกะโปรเจกต์ที่รัฐบาลทยอยเปิดประมูลออกมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานโครงสร้างพื้นฐาน ปัจจุบันกลุ่ม STI อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาคว้างานใหญ่เข้าพอร์ต คาดจะมีการประกาศออกมาใน เร็วๆ นี้ ผลักดันให้ในปี 2565 เราสามารถทุบสถิติ สร้างนิวไฮแบ็คล็อกได้ อีกทั้ง เราจะมุ่งมั่น เดินหน้าพัฒนางานที่ปรึกษาและควบคุมงานก่อสร้างให้มีศักยภาพ รักษามาตรฐานให้อยู่ในระดับสากล” นายสมเกียรติ กล่าวปิดท้าย
ข่าวเด่น