จากการศึกษาข้อมูลการถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2565 ของบริษัทจดทะเบียนจำนวน 783 บริษัท ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกว่า 19.0 ล้านล้านบาท หรือ 99.4% ของมูลค่าหลักทรัพย์รวมทั้งตลาด พบว่า
· ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2565 นักลงทุนต่างประเทศมีมูลค่าการถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทยรวมกว่า 5.11 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 4 ปี เพิ่มขึ้น 0.29% จากปีก่อน ที่สำคัญจากการซื้อสุทธิกว่า 153,151 ล้านบาท ในช่วงเดือนกันยายน 2564 - เดือนกรกฎาคม 2565 และการถือครองหุ้นของบริษัทที่เข้าจดทะเบียนซื้อขายใหม่ (new listing companies) โดยมีมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ คิดเป็น 26.84% ของมูลค่าหลักทรัพย์รวมทั้งตลาด
· อุตสาหกรรมที่นักลงทุนต่างประเทศมีมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มธุรกิจการเงิน และกลุ่มทรัพยากร มูลค่าถือครองหุ้นรวม 3.12 ล้านล้านบาท คิดเป็น 61.0% ของมูลค่าการถือครองหุ้นรวมของนักลงทุนต่างประเทศ
· หมวดธุรกิจที่นักลงทุนต่างประเทศมีมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค (ENERG) 953,319 ล้านบาท รองลงมา คือ หมวดธนาคาร (BANK) 783,470 ล้านบาท และหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (ETRON) 617,210 ล้านบาท โดย 3 หมวดธุรกิจนี้มีมูลค่าการถือครองหุ้นรวม 2.35 ล้านล้านบาท หรือ 46.1% ของมูลค่าการถือครองหุ้นรวมของนักลงทุนต่างประเทศ
· 72.3% ของมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศเป็นการถือครองหุ้นที่อยู่ในองค์ประกอบของ MSCI Thailand Index เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ระดับ 68.0%
· นักลงทุนต่างประเทศที่มีมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุด 10 สัญชาติแรก พบว่า 8 ใน 10 สัญชาติ เป็นสัญชาติเดียวกันกับปีก่อน แต่มีสลับอันดับ โดย นักลงทุนจากสหราชอาณาจักรมีมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุด ตามมาด้วยนักลงทุนจากสิงคโปร์ และสวิสเซอร์แลนด์ที่ขยับขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 3 ขณะที่ฮ่องกงลดลงไปอยู่อันดับ 4 และสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น มอริเชียส เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และบริติช เวอร์จิน ไอส์แลนด์ ตามลำดับ
ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2565 นักลงทุนต่างประเทศมีมูลค่าการถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทยรวมกว่า 5.11 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.29% จากสิ้นเดือนสิงหาคม 2564 โดยมูลค่าการถือครองหุ้นคิดเป็น 26.83% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด
จากการศึกษาข้อมูลการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ1 ในตลาดหุ้นไทยจาก 1) ข้อมูลการปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้น 2) ข้อมูล Corporate Actions 3) ข้อมูลการระดมทุนผ่านตลาดรองของบริษัทจดทะเบียน 783 บริษัท2 โดยใช้ข้อมูลล่าสุดถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2565 ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกว่า 19.04 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 99.40% ของมูลค่าหลักทรัพย์รวมทั้งตลาด
ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2565 นักลงทุนต่างประเทศมีมูลค่าการถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทยรวมกว่า 5.11 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 4 ปี (ภาพที่ 1) หรือสูงเป็นอันดับ 2 ในรอบ 10 ปี โดยมูลค่าถือครองหุ้นฯ เพิ่มขึ้น 0.29% จากสิ้นเดือนสิงหาคม 2564 สวนทางกับดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ที่ลดลง 3.80% (ตารางที่ 1)
ทั้งนี้ ปัจจัยที่มีผลให้มูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศปรับเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจาก 1) การซื้อสุทธิ (foreign net buying position) กว่า 153,151 ล้านบาท ของนักลงทุนต่างประเทศ ในช่วงเดือนกันยายน 2564 - กรกฎาคม 2565 (ภาพที่ 2) และ 2) การถือครองหุ้นของบริษัทที่เข้าจดทะเบียนซื้อขายใหม่ (new listing companies) ในช่วงเดือนกันยายน 2564 - กรกฎาคม 2565 ซึ่ง ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2565 นักลงทุนต่างประเทศถือครองหุ้นของบริษัทที่เข้าจดทะเบียนซื้อขายใหม่ 24 บริษัท มีมูลค่าการถือครองหุ้นรวม 2,709 ล้านบาท (ตารางที่ 2)
ตารางที่ 2 ข้อมูลการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ ในส่วนของบริษัทจดทะเบียนที่เข้าจดทะเบียนซื้อขายใหม่ (new listing companies) ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2565
นักลงทุนต่างประเทศถือครองหุ้นสูงสุดในกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มธุรกิจการเงิน และกลุ่มทรัพยากร มีมูลค่าถือครองหุ้นรวม 3.12 ล้านล้านบาท คิดเป็น 61.0% ของมูลค่าการถือครองหุ้นรวมของนักลงทุนต่างประเทศ
เมื่อพิจารณามูลค่าถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศจำแนกตามกลุ่มอุตสาหกรรมในตลาดหุ้นไทย 9 อุตสาหกรรม (นับตลาดเอ็ม เอ ไอ เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรม) พบว่า มูลค่าถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2565 เพิ่มขึ้นในกลุ่มกลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มทรัพยากร กลุ่มบริการ และบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ มีมูลค่าการถือครองหุ้นลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการถือครองหุ้นฯ สูงสุด 3 อันดับแรก ยังคงเป็นอุตสาหกรรมเดิมและอันดับเดียวกันกับปีก่อน ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มธุรกิจการเงิน และกลุ่มทรัพยากร ตามลำดับ (ตารางที่ 3) โดยมีมูลค่าการถือครองหุ้นรวม 3.12 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 61.0% ของมูลค่าการถือครองหุ้นรวมของนักลงทุนต่างประเทศ
ตารางที่ 3 มูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นไทยและการเปลี่ยนแปลงของดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรม
กลุ่มเทคโนโลยี ยังคงเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่นักลงทุนต่างประเทศถือครองหุ้นด้วยมูลค่าสูงสุดที่ระดับ 1,155,658 ล้านบาท ต่อเนื่องจากปีก่อน ที่มีมูลค่าการถือครองหุ้นรวม 1,310,105 ล้านบาท ลดลง 11.79% จากปีก่อน ส่วนหนึ่งจากราคาหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มเทคโนโลยีปรับลดลง
อันดับ 2 คือ กลุ่มธุรกิจการเงิน มีมูลค่าการถือครองหุ้นรวม 1,006,750 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.26% จากปีก่อน และพบว่า กลุ่มอุตสาหกรรมนี้ได้รับความสนใจมากขึ้นจากนักลงทุนต่างประเทศ สังเกตได้จากการเติบโตของมูลค่าการถือครองหุ้น สวนทางกับการเปลี่ยนแปลงดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมปรับลดลง 3.38% และอันดับ 3 คือ กลุ่มทรัพยากร มีมูลค่าการถือครองหุ้นรวม 953,421 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.61 จากปีก่อน ขณะที่ดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับลดลง 0.28%
ขณะที่กลุ่มบริการ อยู่ที่อันดับ 4 มีมูลค่าการถือครองหุ้นรวม 891,844 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.06% จากปีก่อน สวนทางกับดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ปรับลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน
นักลงทุนต่างประเทศมีมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุดในหมวดพลังงานและสาธารณูปโภค รองลงมา คือ หมวดธนาคาร และหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
เมื่อพิจารณามูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศจำแนกตามหมวดธุรกิจของตลาดหุ้นไทย จำนวน 28 หมวด (รวมตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เป็นหนึ่งหมวดธุรกิจ) พบว่า
นักลงทุนต่างประเทศมีมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุดในหมวดพลังงานและสาธารณูปโภค (ENERG) 953,319 ล้านบาท คิดเป็น 18.66% ของมูลค่าการถือครองหุ้นรวมของนักลงทุนต่างประเทศ รองลงมา คือ ธนาคาร (BANK) 783,470 ล้านบาท คิดเป็น 15.33% ของมูลค่าการถือครองหุ้นรวมของนักลงทุนต่างประเทศ และหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (ETRON) 617,210 ล้านบาท คิดเป็น 12.08% ของมูลค่าการถือครองหุ้นรวมของนักลงทุนต่างประเทศ โดย 3 หมวดธุรกิจนี้มีมูลค่าการถือครองหุ้นรวม 2,353,999 ล้านบาท หรือ 46.07% ของมูลค่าการถือครองหุ้นรวม (ตารางที่ 4)
มูลค่าการถือครองหุ้นกว่า 72.3% ของมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศทั้งหมด เป็นการถือครองหุ้นที่อยู่ในองค์ประกอบของ MSCI Thailand Index เพิ่มขึ้นจาก 68.0% จากปีก่อน
จากรายชื่อหลักทรัพย์ที่นักลงทุนต่างประเทศถือครองหุ้น ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2565 เปรียบเทียบกับรายชื่อองค์ประกอบของ MSCI Thailand Index จำนวน 43 บริษัท3 พบว่า นักลงทุนต่างประเทศถือครองทุกหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบดัชนีดังกล่าว โดยมีมูลค่าการถือครองหุ้นรวม 3.69 ล้านล้านบาท คิดเป็น 72.3% ของมูลค่าการถือครองหุ้นรวมของนักลงทุนต่างประเทศ (ภาพที่ 3) ซึ่งมีมูลค่าการถือครองหุ้นเพิ่มขึ้น 6.6% จาก ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2564 ที่มีมูลค่าการถือครองหุ้นที่เป็นองค์ประกอบดัชนีรวม 3.47 ล้านล้านบาท
ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2565 นักลงทุนจาก 123 สัญชาติถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทย โดยนักลงทุนจากสหราชอาณาจักร สิงคโปร์ และสวิสเซอร์แลนด์ มีมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุด 3 สัญชาติแรก ซึ่งสวิสเซอร์แลนด์ขยับขึ้นมาจากอันดับ 4 จากปีที่แล้ว
จากข้อมูลการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2565 พบว่า มีนักลงทุนต่างประเทศจำนวน 123 สัญชาติถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทย ลดลงสุทธิ 1 สัญชาติ จากปีก่อน
นักลงทุนต่างประเทศที่มีมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุด 10 สัญชาติแรก มีมูลค่าถือครองหุ้นรวม 4.84 ล้านล้านบาท คิดเป็น 94.8% ของมูลค่าการถือครองหุ้นทั้งหมดของนักลงทุนต่างประเทศ (ตารางที่ 5)
· นักลงทุนจากสหราชอาณาจักร ยังคงมีมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุดในตลาดหุ้นไทย โดยมูลค่าการถือครองหุ้นส่วนใหญ่กระจายถือครองหุ้นของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ที่เป็นองค์ประกอบดัชนีอ้างอิงต่างประเทศ (อาทิ MSCI Thailand Index เป็นต้น)
· อันดับที่ 2 ยังคงเป็นนักลงทุนจากสิงคโปร์ ที่มูลค่าการถือครองหุ้นส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
· ขณะที่อันดับ 3 ในปีนี้ คือ นักลงทุนจากสวิสเซอร์แลนด์ ที่มูลค่าการถือครองหุ้นส่วนใหญ่กระจายถือครองหุ้นของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ที่เป็นองค์ประกอบดัชนีอ้างอิงต่างประเทศ โดยเฉพาะในธุรกิจพลังงาน แซงหน้าอันดับ 4 นักลงทุนจากฮ่องกง ที่ลดลงจากอันดับ 3 ในปีก่อน โดยมูลค่าการถือครองหุ้นส่วนใหญ่ของนักลงทุนจากฮ่องกง เป็นการของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ที่เป็นองค์ประกอบดัชนีอ้างอิงต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
· อันดับที่ 5 - 7 ยังคงเป็นสัญชาติและอันดับเดิม ได้แก่ นักลงทุนจากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และมอริเชียส ตามลำดับ ขณะที่อันดับที่ 8 คือ นักลงทุนจากเนเธอร์แลนด์ที่ขยับมาอันดับ 12 ตามมาด้วยอันดับ 9 นักลงทุนจากฝรั่งเศส ที่ขยับขึ้นมาอันดับ 11 ในปีก่อน และอันดับ 10 ยังคงเป็นนักลงทุนจากบริติช เวอร์จิน ไอส์แลนด์
ข่าวเด่น