สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำรีบาวด์แกร่ง สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือระดับ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย

ความกังวลดังกล่าวสะท้อนผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีที่เริ่มอ่อนตัวลงในรอบ 1 สัปดาห์ทำจุดต่ำสุดบริเวณ 3.56% สอดคล้องกับดัชนีดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงระดับ 110.05 หนุนราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,729 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ SPDR เริ่มกลับมาเข้าซื้อสะสมมากขึ้น 5.19 ตัน

สัปดาห์นี้จับตาประกาศตัวเลขดัชนีเงินเฟ้อผู้บริโภค หากตัวเลขออกมาสูงกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 8.3% อาจทำให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% เนื่องจากในระยะถัดไปแนวโน้มเงินเฟ้ออาจทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง สาเหตุมาจากโอเปกพลัสมีมติลดกำลังการผลิตลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนพฤศจิกายน ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลทำให้ตลาดกลับมากังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้ออีกครั้ง

ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่าราคาทองคำผันผวนในระหว่างสัปดาห์ โดยหากหากราคาทองคำอ่อนตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำทยอยเข้าซื้อสะสม และมีจุดทำกำไรที่แนวต้าน 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ส่วนบรรยากาศในตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 ต.ค.) ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค เนื่องจากตลาดกลับมากังวลแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ อีกทั้งมีแรงขายจากหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,579.66จุด -9.52 จุด -0.60% มูลค่าการซื้อขาย 50,536 ล้านบาท
 
ฝ่ายวิจัยคาดดัชนีสัปดาห์นี้แกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยคาดว่าปริมาณการซื้อขายจะเบาบางเนื่องจากติดวันหยุดยาวในช่วงปลายสัปดาห์ ประกอบนักลงทุนยังติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในวันที่ 13 ต.ค.นี้  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,560-1,590 จุด

ส่วนสองหุ้นที่น่าจับตามองสัปดาห์นี้ ได้แก่ หุ้น THG ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 67.50 บาท ยืนระยะเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกระดับ  โดยมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และ Slow Sto.+MACD ส่งสัญญาณบวก คาดราคามีโอกาสเหวี่ยงตัวขึ้นทดสอบต้านที่ 70.00-72.00 บาท มีแนวรับอยู่ที่ 66.00 บาท และมีจุด cut loss อยู่ที่ 65.00 บาท

และหุ้น BA ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 12.60 บาท ราคาอยู่ในทิศทางขาขึ้น พร้อม Volume เข้า  และ MACD เพิ่งส่งสัญญาณ Bullish หากผ่านต้านแรกที่ 13.00 บาท จะมีต้านถัดไปที่ 13.50 บาท มีแนวรับอยู่ที่ 12.20 บาท และมีจุดcut loss อยู่ที่ 12.00 บาท