ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 14 ต.ค. 65 ปรับตัวลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 437.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล
ตลาดยังคงได้รับแรงกดดัน จากการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ แถลงวานนี้ว่า จะระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และรักษาคะแนนนิยมของรัฐบาลก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมในวันที่ 8 พ.ย. 65 หลังกลุ่มโอเปกพลัสมีมติปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ยังแข็งค่ากดดันราคาน้ำมันดิบ ส่งผลให้ความน่าสนใจในการลงทุนในตลาดน้ำมันลดลง สำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น เนื่องจากสัญญาน้ำมันดิบจะมีราคาแพงขึ้น
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในอินเดียและเวียดนามยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม อุปทานจากมาเลเซียมีแนวโน้มสูงขึ้นหลังโรงกลั่นในประเทศกลับมาดำเนินการผลิตปกติ
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลของจีนปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม อุปทานในฝั่งยุโรปยังคงตึงตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังมีการประท้วงค่าครองชีพในฝรั่งเศส
ข่าวเด่น