คาด SET มี Upside ระยะสั้นจำกัดบริเวณ 1600 จุด โดยมอง bond yield สหรัฐที่พุ่งขึ้นต่อเนื่อง สร้าง Sentiment ลบต่อตลาด ด้านกรอบล่างอยู่ที่แนวรับ 1570-1580 จุด ที่คาดยังเป็นจุดรองรับได้ ดังนั้นในช่วงนี้ ดัชนีมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1570-1600 จุด
ประเด็นสำคัญ
รัสเซียเตรียมเปิดฉากบุกรอบใหม่จากชายแดนเบลารุส-ตอนเหนือยูเครน เพื่อตัดการช่วยเหลือทางการทหารของยูเครน
โรงกลั่นเอเชียและตะวันออกกลางส่งน้ำมันดีเซลไปยุโรปทดแทนที่ขาดแคลน
ลิซ ทรัสส์ ประกาศลาออกจากนายกฯ อังกฤษแล้ว โดยรีชี ซูแนค-เพนนี มอร์เดินท์ รวมทั้งบอริส จอห์นสัน มีโอกาสได้รับเลือกเป็นนายกฯคนต่อไป
จีนเตรียมผ่อนมาตรการโควิดหนุนท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวต่างชาติอาจใช้เวลากักตัวน้อยลงเหลือ 7 วัน
เงินบาทอ่อนค่าในรอบ 16 ปีอีกครั้ง นลท.ต่างชาติเทขายหุ้น-พันธบัตร 8 วันรวมกว่า 3.2 หมื่นลบ. หลังส่วนต่าง ด.บ. สหรัฐ-ไทยกว้างมากขึ้น
กสทช. มีมติ 3:2 รับทราบควบรวม TRUE-DTAC มีเงื่อนไขลดค่าบริการ 12% ภายใน 3 เดือน-ขยาย 5G ครอบคลุม 85% ของประชากรภายใน 3 ปี
ศาลล้มละลายกลางเห็นชอบให้ THAI แก้ไขแผนฟื้นฟูฯ โดยลดวงเงินกู้เหลือ 2.5 หมื่นลบ.-แปลงหนี้เป็นทุน-ขายหุ้นเพิ่มทุน คาดใช้เวลา 1 ปี (ภายในปี 66)
กบง. เห็นชอบตรึงราคา LPG ภาคครัวเรือนที่ 408 บ./15 กก. ถึงสิ้นปี 65
สอท. รายงานยอดส่งออกรถยนต์ ก.ย. 65 +36%YoY สูงสุดรอบ 9 เดือน ส่วนยอดผลิตรถยนต์ ก.ย. +28%YoY ปัญหาขาดแคลนชิปผ่อนคลาย
กลยุทธ์การลงทุน
แม้เราเชื่อว่าตลาดกำลังปรับตัวเข้าสู่สมดุลใหม่และมีการรับรู้ความเสี่ยงการดำเนินนโยบายการเงินตึงตัวของหลายประเทศไปในระดับนึงแล้ว แต่มองการปรับขึ้นหรือ Upside ของดัชนียังถูกจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลความเสี่ยงการถดถอยของภาวะเศรษฐกิจ ดังนั้นช่วงสั้นจึงยังต้องระมัดระวังความผันผวนของดัชนี
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมองยังต้องระมัดระวังความผันผวนของดัชนีจากแรงกดดันของความเสี่ยงภายนอก กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ Selective Buy ในหุ้นที่คาดผลประกอบการออกมาดี (Earnings Play) และต้านทานความเสี่ยงภายนอกได้ ดังนี้
1) หุ้นธนาคาร ซึ่งคาดกำไร 3Q65 ออกมาเติบโตดี และมีแนวโน้มที่จะได้ประโยชน์มากสุดจากวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น เลือก BBL KTB KBANK
2) หุ้น non-bank ซึ่งคาดจะพรีวิวโมเมนตัมกำไรยังแข็งแกร่งใน 3Q65 เลือก HMPRO CRC CPF ZEN SNNP AOT
3) หุ้นรอจังหวะซื้อหาก SET หลุด 1550+/- ส่งผลให้ราคาปรับลงแรง (PBV ต่ำกว่า -1SD.) สวนทางพื้นฐานที่ยังมีศักยภาพเติบโตได้ เลือก MTC GPSC BGRIM CBG SCGP
ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้
1) หุ้นโรงกลั่น หลังคาดงบ 3Q65 อาจได้รับผลกระทบค่าการกลั่นลดลง และขาดทุนสต็อก โดยเฉพาะ บจ. ที่ไม่ได้ทำ Hedging
2) หุ้นเดินเรือซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากอุปทานเรือใหม่ที่เข้ามาและอุปสงค์การขนส่งสินค้าเริ่มชะลอตัวลง
Daily focus
KTB หุ้นเด่นสำหรับวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นและเงินเฟ้อ ซึ่ง valuation ยังน่าสนใจและมีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์น้อยกว่าธนาคารอื่นๆ อีกทั้ง 3Q65 คาดกำไรจะเพิ่มขึ้น 60%YoY แข็งแกร่งสุดในกลุ่มธนาคาร แรงหนุนจาก NII สูงขึ้นและตั้งสำรองลดลง ส่วนทั้งปี 2565 คาดจะมีกำไรเติบโตเด่น 40%YoY
AOT มองภาพรวมอุตสาหกรรมที่สดใสขึ้นและผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นจะหนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยปัจจุบันราคาหุ้นยังเทรดต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 อยู่ 2% ตามหลังหุ้นอื่นๆ ในกลุ่มท่องเที่ยวที่เทรดสูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 อยู่เฉลี่ย 28%
ข่าวเด่น