วันที่ 21 ตุลาคม 2565 เวลา 13.30 น. ที่ห้องรับรอง กระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการพบปะหารือกับนายมูซาบาเยฟ ทัลกัต อมันเกลดีวิช สมาชิกวุฒิสภาคาซัคสถาน อดีตรัฐมนตรีอวกาศ ซึ่งเคยเป็นนักบินอวกาศคนแรกของคาซัคสถาน ที่นำคณะมาเยี่ยมคารวะที่กระทรวงพาณิชย์ พร้อมหารือความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยกับคาซัคสถาน โดยนายจุรินทร์ขอให้สมาชิกวุฒิสภาทัลกัต ช่วยประสานความร่วมมือระหว่างไทยกับคาซัคสถานใน 3 ประเด็นหลัก คือ
1. การทำ FTA ระหว่างประเทศไทยกับกลุ่มประเทศยูเรเซีย 5 ประเทศ โดยมีคาซัคสถานเป็นหนึ่งในนั้นด้วย ซึ่งท่านวุฒิสมาชิกรับจะนำไปแจ้งให้รัฐบาลของคาซัคสถานช่วยเร่งดำเนินการต่อ
2. การส่งเสริมกิจกรรมทางการค้าระหว่างกันของทั้ง 2 ประเทศ เพื่อเพิ่มยอดมูลค่าการส่งออกให้กับสินค้าไทย
3. การหารือเรื่องปุ๋ย ซึ่งคาซัคสถานเป็นผู้ผลิตปุ๋ยรายสำคัญแห่งหนึ่งของโลก เนื่องจากปัจจุบัน ไทยได้รับผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้มีปัญหาในการนำเข้าปุ๋ยจาก 2 แหล่งที่สำคัญ คือ รัสเซียและเบลารุส ทำให้มีอุปสรรคทั้งด้านการขนส่งและการชำระเงิน ซึ่งไทยนำเข้าปุ๋ยจากรัสเซีย สูตร 15-15-15 ประมาณ 75% ของการนำเข้าทั้งหมด และยังนำเข้าฟอสฟอรัส ประมาณ 8% ในส่วนของเบลารุสนั้น ไทยนำเข้าโปแตสเซียมจำนวน 27% ถือเป็นอันดับ 2 รองจากแคนาดาที่ประเทศไทยนำเข้า 37% ดังนั้น การเพิ่มโอกาสในการซื้อปุ๋ยจากคาซัคสถานก็จะเป็นแหล่งนำเข้าใหม่ของประเทศไทย เพื่อทดแทน 2 แหล่งนำเข้าเดิม
ในเรื่องการซื้อขายปุ๋ยจากคาซัคสถานนั้น นายจุรินทร์ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในและกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นตัวกลางจัดหารือระหว่างผู้ส่งออกปุ๋ยของคาซัคสถานกับผู้นำเข้าปุ๋ยของไทยจากทั้ง 3 สมาคมมาร่วมเจรจาการค้าเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน โดยละเอียดต่างๆ ของข้อตกลงในเรื่องของการซื้อขายให้เป็นเรื่องของภาคเอกชนของทั้ง 2 ฝั่ง ได้ดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเรื่องปุ๋ยขาดแคลนและราคาปุ๋ยที่ยังคงสูงอยู่มาก อันเนื่องมาจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากราคาแก๊สและน้ำมันซึ่งเป็นวัตถุดิบผลิตปุ๋ยยังมีราคาสูงอยู่ ดังนั้น หากไทยสามารถมีแหล่งซื้อปุ๋ยในราคาถูกได้ก็จะช่วยทำให้ราคาปุ๋ยในประเทศลดลง
ข่าวเด่น