· ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 มีบริษัทจดทะเบียนไทยที่ถือเป็นหุ้นยั่งยืนตามกรอบดัชนี DJSI ดัชนี MSCI-ESG และรายชื่อหุ้น THSI รวม 155 บริษัท โดยเป็นบริษัทในกลุ่ม SET100 และ Non-SET100 ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน และมีการกระจายตัวในเชิงกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลาย หุ้นกลุ่มนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นสอดคล้องตามทิศทางของตลาดการลงทุนโลกที่นักลงทุนใส่ใจในด้าน ESG มากขึ้น
· นักลงทุนบุคคลที่ซื้อขายหุ้นในช่วงครึ่งปีแรกมีจำนวน 9 แสนคน พบว่าประมาณ 80% ซื้อขายหุ้นยั่งยืนอย่างน้อย 1 บริษัท และมีมูลค่าซื้อขายหุ้นยั่งยืนเฉลี่ยสูงถึงวันละ 14,245 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40% ของมูลค่าซื้อขายหุ้นของนักลงทุนบุคคลทั้งหมด
· หุ้นยั่งยืนเป็นที่นิยมของบุคคลในทุก generation โดยยิ่งสูงอายุขึ้นยิ่งมีแนวโน้มที่จะสนใจและกระจายมูลค่าซื้อขายให้หุ้นยั่งยืนมากขึ้น อีกทั้ง พบว่านักลงทุนที่มีประสบการณ์เริ่มซื้อขายหุ้นมาก่อนปี 2564 สนใจหุ้นยั่งยืนมากกว่านักลงทุนใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาดมาในช่วง 2 ปีหลังอยู่บ้าง · ความสนใจหุ้นยั่งยืนแตกต่างกันอย่างชัดเจนในมุม retail segment โดยบุคคลกลุ่ม Fundamental Group พบว่ามากกว่า 85% จากทุก segment ในกลุ่มนี้ซื้อขายหุ้นยั่งยืน และกระจายมูลค่าซื้อขายให้สูงถึง 60-80% ขณะที่บุคคลในกลุ่ม Risk Group กระจายมูลค่าซื้อขายให้หุ้นยั่งยืนเพียง 15-25%
นักลงทุนบุคคลไทยใครสนใจหุ้นยั่งยืน (ESG Seeker)
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 มีบริษัทจดทะเบียนไทย 155 บริษัท ที่ได้รับคัดเลือกเข้าเป็นองค์ประกอบในดัชนีความยั่งยืนสากลของ DJSI (Dow Jones Sustainability Indices) MSCI-ESG หรือได้รับคัดเลือกเป็นหุ้นยั่งยืน THSI (Thailand Sustainability Investment) โดยแบ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม SET100 และ Non-SET100 ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน และมี การกระจายตัวในเชิงกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลาย (รูปที่ 1) ซึ่งหุ้นยั่งยืนดังกล่าวได้รับความนิยมเพิ่ม มากขึ้นในปัจจุบัน สอดคล้องตามทิศทางของตลาด การลงทุนโลกที่นักลงทุนต่างใส่ใจในเรื่องของ ESG (Environmental-Social-Governance) มากขึ้น
ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2565 ตลาดหุ้นไทยมีนักลงทุนที่มีบัญชีซื้อขายหุ้นรวม 5.54 ล้านบัญชี หรือ 2.27 ล้านคน1 โดย นักลงทุนบุคคลทำธุรกรรมซื้อขายหุ้นในช่วง 6 เดือนแรกรวม 0.89 ล้านคน มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยวันละ 35,487 ล้านบาท หรือคิดเป็น 41% ของมูลค่าซื้อขายหุ้นทั้งตลาด ทั้งนี้ พบว่า 79% ของนักลงทุนบุคคลดังกล่าวซื้อขายหุ้นยั่งยืนอย่างน้อย 1 บริษัท และมีมูลค่าซื้อขายหุ้นยั่งยืนเฉลี่ยสูงถึงวันละ 14,245 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40% ของมูลค่าซื้อขายหุ้นของนักลงทุนบุคคลทั้งหมด (รูปที่ 2)
คำถามที่น่าสนใจต่อไปคือ นักลงทุนบุคคลสนใจหุ้นยั่งยืนเหมือนกันทุกกลุ่มหรือไม่ ใครสนใจมากหรือน้อยแตกต่างกันอย่างไร
ในมุม generation (กล่องที่ 1) พบว่า หุ้นยั่งยืนเป็นที่นิยมของบุคคลในทุก generation โดยมากกว่า 70% ของคน ในแต่ละ generation ต่างซื้อขายหุ้นยั่งยืนในพอร์ต และยิ่งสูงอายุขึ้นยิ่งมีแนวโน้มที่จะสนใจและกระจายมูลค่าซื้อขายให้หุ้นยั่งยืนมากขึ้นด้วย (รูปที่ 2) นอกจากนี้ หากเปรียบเทียบในเชิงประสบการณ์การลงทุนในตลาดหุ้นของแต่ละบุคคลแล้ว พบว่านักลงทุนที่มีประสบการณ์เริ่มซื้อขายมาก่อนปี 2564 สนใจและกระจายการซื้อขายให้หุ้นยั่งยืนมากกว่านักลงทุนใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาดมาเริ่มซื้อขายในช่วง 2 ปีหลังอยู่บ้าง (รูปที่ 3)
ในมุม retail segment (กล่องที่ 2) มีความสนใจหุ้นยั่งยืนที่ค่อนข้างแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยบุคคลกลุ่ม Fundamental Group ซึ่งนิยมหุ้นพื้นฐานขนาดใหญ่หรือหุ้นที่ให้ปันผลสูง พบว่ามากกว่า 85% ของบุคคลทุก segment ในกลุ่มนี้ซื้อขายหุ้นยั่งยืน และกระจายมูลค่าซื้อขายให้สูงถึง 60-80% เลยทีเดียว ขณะที่บุคคลในกลุ่ม Risk Group กระจายมูลค่าซื้อขายให้หุ้นยั่งยืนเพียง 15-25% (รูปที่ 4)
ข่าวเด่น