คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1590 - 1610 จุด โดยแม้ทิศทาง fund flow ไหลเข้า ยังเป็นปัจจัยหนุน อย่างไรก็ตาม มองกรอบบนถูกจำกัด และยังต้องระวังการพักตัว โดยหากต่ำกว่า 1590 จุด เริ่มเป็นลบ โดยคาดใกล้วันประชุมเฟด 1-2 พ.ย. นักลงทุนมีโอกาสขายทำกำไรออกมาก่อน เพื่อลดความเสี่ยง
ประเด็นสำคัญ
GDP 3Q65 (รายงานครั้งแรก) ของสหรัฐขยายตัว 2.6%QoQ สูงกว่าคาดที่
2.3%QoQ คลายความกังวล ศก. ถดถอยต่อเนื่อง ขณะที่คาดการณ์ Fed ขึ้น ด.บ. 0.50% ในการประชุม 13-14 ธ.ค. อยู่ที่ 51.5%
ECB ปรับขึ้น ด.บ. 0.75% ส่งผลให้ ด.บ. Refinancing rate อยู่ที่ 2.00% และ ด.บ. เงินฝากอยู่ที่ 1.50% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2552
สหรัฐคาดเห็นการควบคุมส่งออกชิปจากประเทศพันธมิตรไปยังจีนเพิ่มขึ้น
ก.คลังเตรียมขายหุ้นในพอร์ตนำไปเพิ่มทุนใน THAI เพื่อรักษาการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ลำดับที่หนึ่ง
สภาพัฒน์คาด ศก. ไทยยังเติบโตต่อเนื่อง-แข็งแกร่ง ด้าน ธปท. คาด GDP ปีนี้โต 3.3% ปีหน้า 3.8% ยืนยันไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้น ด.บ.
ก.พลังงานเตรียมเสนอ กพช. เดือนหน้าออกมาตรการตรึงค่าไฟฟ้างวดแรกปี 66 (ม.ค.-เม.ย.) อยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย ช่วยลดภาระประชาชน
สมาคมอาคารชุดไทยคาด ตลาดอสังหาฯ ปีนี้โต 15% ต่อเนื่องปีหน้า โดยมูลค่าจะอยู่ที่ 4.5 แสนลบ. เท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด-19
Bloomberg ระบุ KBANK เตรียมเปิดประมูลขาย บลจ.กสิกรไทย ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าหลังบริษัทต่างชาติสนใจซื้อ
กลยุทธ์การลงทุน
แม้เราเชื่อว่าช่วงที่ผ่านมาตลาดรับรู้ความเสี่ยงต่างๆ ไปในระดับหนึ่งแล้ว แต่คาดดัชนียังมี Upside จำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลความเสี่ยงการถดถอยของเศรษฐกิจโลก และสัปดาห์นี้คงจับตาการประชุมนโยบายการเงินของ ECB และ BoJ รวมทั้งตัวเลข GDP 3Q65 และเงินเฟ้อของสหรัฐ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำเป็น Selective Buy
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมองอารมณ์ตลาดจะยังอยู่ในลักษณะของการเก็งกำไร จึงแนะนำ Selective Buy ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ซึ่งคาดต้านทานความเสี่ยงภายนอกได้ ดังนี้
1) หุ้น Earnings Play ซึ่งคาดกำไรยังแข็งแกร่งใน 3Q65 เลือก CRC CPALL CPF ZEN AOT TU
2) เก็งกำไรหุ้นที่คาดได้อานิสงส์รัฐมีแผนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มซึ่งคาดได้ข้อสรุปใน พ.ย. นี้ อาทิ ช้อปดีมีคืนและเราเที่ยวด้วยกัน เลือก BJC HMPRO ERW CENTEL
3) หุ้นรอจังหวะซื้อหาก SET หลุด 1550+/- ส่งผลให้ราคาปรับลงแรง (PBV ต่ำกว่า -1SD.) สวนทางพื้นฐานที่ยังมีศักยภาพเติบโตได้ เลือก MTC GPSC BGRIM CBG SCGP
ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้
1) หุ้นโรงกลั่น หลังคาดงบ 3Q65 อาจได้รับผลกระทบค่าการกลั่นลดลง และขาด ทุนสต็อก โดยเฉพาะ บจ. ที่ไม่ได้ทำ Hedging
2) หุ้นธนาคาร แนะนำหาจังหวะขายทำกำไร หากตลาดปรับเพิ่มขึ้นมาแถว 1,600 จุดซึ่งสะท้อนภาพผลประกอบการที่ออกไปแล้ว
Daily focus
PTTEP มองจะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันระดับที่สูงใน 4Q65 ขณะที่ทั้งปี 65 คงคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 91%YoY สู่ 7.2 หมื่นลบ. และอาจมี upside อยู่บ้าง เมื่อพิจารณาจากกำไรที่แข็งแกร่งใน 3Q65
AOT 4QFY65 (ก.ค.-ก.ย. 65) คาดขาดทุนปกติลดลงทั้ง YoY และ QoQ ตามการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวไทยหลังตั้งแต่ 1 ก.ค. รัฐยกเลิกข้อจำกัดทั้งหมดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้ว ขณะที่ปี FY66 คาดพลิกมีกำไรจากการฟื้นตัวของตลาดต่างชาติและโครงการพื้นที่เชิงพาณิชย์ใหม่
ข่าวเด่น