คาด SET แม้ได้รับ Sentimentบวก จากตลาดหุ้นสหรัฐ อย่างไรก็ตาม จากที่ดัชนีปรับขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว รวมถึงนักลงทุนรอประเด็นสำคัญในสัปดาห์นี้ สำหรับการประชุมเฟด ทำให้มองในระยะสั้นกรอบบนยังถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1610-1615 จุด ด้านกรอบล่างอยู่ที่แนวรับ 1593 จุด หากต่ำกว่า เริ่มเป็นลบ
ประเด็นสำคัญ
รัสเซียระงับข้อตกลงยูเครนส่งออกธัญพืช หลังเกิดเหตุโดรนโจมตีไครเมีย เราคาด
วิกฤติอาหารโลกและการปรับขึ้นของราคาสินค้าเกษตรกลับมาอีกครั้ง เป็น sentiment ลบต่อหุ้นกลุ่มอาหารที่มีสินค้าเกษตรเป็นต้นทุนการผลิต อาทิ CPF GFPT SNNP
TFMAMA แต่เป็น sentiment บวกต่อการเก็งกำไรหุ้นผู้ผลิต-จำหน่ายน้ำมันและกากถั่วเหลือง TVO รวมทั้งผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าแป้งมันสำปะหลังซึ่งใช้เป็นสินค้าทดแทนแป้งข้าวโพด TWPC
สศค.ปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้ลงเหลือ 3.4% จากเดิม 3.5% จากการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัวลง ส่วน GDP ปีหน้าคาดโต 3.8%
ก.คลังเตรียมนำมาตรการกระตุ้นบริโภคที่เคยดำเนินการมาแล้ว เช่น ช้อปดีมีคืน คนละครึ่ง นำมาออกเป็นมาตรการกระตุ้น ศก. ช่วงปลายปี
กรมสรรพสามิตเตรียมออกมาตรการภาษีหนุนผลิตแบตฯ EV ถูกลง คาดมี 3 ระดับ อุดหนุนกระบวนการผลิต-เปลี่ยนเฉพาะโมดูล-เปลี่ยนแบตทั้งลูก
ททท. เตรียมเสนอโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 เข้า ครม. พิจารณา คาดให้ 1 คนต่อ 1 สิทธิ ทั้งหมด 2 ล้านสิทธิ
กสทช. วางแผนที่จะผลักดันการลงทุนในบรอดแบรนด์เพิ่มเติม โดยปีหน้าจะมุงเน้น “กิกะไทยแลนด์” และสนับสนุนนโยบายไทยแลนด์ 4.0
กลยุทธ์การลงทุน
แม้เราเชื่อว่าช่วงที่ผ่านมาตลาดรับรู้ความเสี่ยงต่างๆ ไปในระดับนึงแล้ว แต่ช่วงสั้นอารมณ์ตลาดคาดยังอยู่ในลักษณะของการเก็งกำไรผลประกอบการ 3Q65 ของบริษัทจดทะเบียน และสัปดาห์นี้คงจับตาการประชุมนโยบายการเงินของ FED และ BoE รวมทั้งตัวเลขตลาดแรงงงานของสหรัฐฯ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำเป็น Selective Buy ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : ช่วงสั้นแนะนำ Selective Buy ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ซึ่งคาดต้านทานความเสี่ยงภายนอกได้ ดังนี้
1) หุ้น Earnings Play ซึ่งคาด 3Q65 กำไรจะออกมาเติบโตแข็งแกร่ง YoY เลือก CRC CPALL BDMS LH
2) หุ้นที่ราคาปรับลงแรง และ Valuation ไม่แพง (PBV ต่ำกว่า -1SD.) สวนทางพื้นฐานที่ยังมีศักยภาพเติบโตได้ เลือก MTC GPSC BGRIM SCGP
3) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์ ถ้าหากเฟดกลับมาส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน ซึ่งทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าและเงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง เลือก PTT BBL AOT
ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้
1) หุ้นเดินเรือ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากอุปทานเรือใหม่ที่เข้ามาและอุปสงค์การขนส่งสินค้าเริ่มชะลอตัวลง
2) หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากสินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้นและผลประกอบการหุ้นเทคโนโลยีของโลกออกมาต่ำกว่าคาด
3) หุ้นโรงกลั่นและปิโตรเคมี หลังคาดงบ 3Q65 อาจได้รับผลกระทบค่าการกลั่น/ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ลดลง และขาดทุนสต็อก
Daily focus
CRC 3Q65 คาดผลประกอบการฟื้นตัว YoY กลับมามีกำไร แรงหนุนจากยอดขายปลีกและรายได้ค่าเช่าที่ฟื้นตัว อีกทั้งมาร์จิ้นคาดดีขึ้นเมื่อเทียบกับการล็อกดาวน์ในปีก่อน ส่วนทั้งปี 65 คาดมีกำไรปกติแตะ 6,310 ลบ. เพิ่มจากปี 64 ที่ทำได้ 190 ลบ. ซึ่งนับเป็นการเติบโตที่ดีสุดในกลุ่มพาณิชย์
TWPC คาดมีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามา จากข่าวรัสเซียระงับเข้าร่วมข้อตกลงส่งออกธัญพืช (ข้าวสาลี ข้าวโพดและถั่วเหลือง) กับยูเครน ซึ่งคาดหนุนทำให้ราคาแป้งมันสำปะหลังปรับตัวขึ้นเนื่องจากเป็นสินค้าทดแทนแป้งข้าวโพดในอุตสาหกรรมอาหาร
ข่าวเด่น