ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังตลาดยังคงกังวลอุปทานตึงตัว จากความไม่แน่นอนของการส่งออกน้ำมันดิบของรัสเซียในช่วงเข้าใกล้เส้นตายภายในวันที่ 5 ธ.ค. 65 นี้ ขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในการประชุมวานนี้ ที่ระดับ 75 bps หรือ 0.75% มาอยู่ที่ระดับ 3.75-4.0% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ และตลาดคาดการณ์อีกว่า FED อาจลดระดับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานตัวเลขน้ำมันดิบคงคลัง ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 ต.ค. 65 ปรับลดลง 3.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 436.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 0.37 ล้านบาร์เรล
ตลาดน้ำมันดิบได้รับแรงหนุน หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบที่ซื้อขายกันในเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ มีราคาถูกลง และน่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดได้แรงหนุนจากอุปสงค์ในอินเดียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย.65 เนื่องจากอุปทานในประเทศปรับลดลง หลังโรงกลั่นเข้าสู่ช่วงปิดซ่อมบำรุง ขณะที่ตลาดกังวลโควตาการส่งออกของจีน ที่จีนมีแนวโน้มส่งออกเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย.65
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในตลาดมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น จากโควตาการส่งออกของจีนที่เพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย.65 ขณะที่สถานการณ์การประท้วงหยุดงานในฝรั่งเศสเริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้โรงกลั่นในประเทศเริ่มกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้ง
ข่าวเด่น