ภาพรวมในเดือนที่ผ่านมาปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,617 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังตัวเลขการจ้างงานเดือนกันยายนของสหรัฐออกมาสูงกว่าคาดการณ์ที่ 263k สอดคล้องกับอัตราการว่างงานที่ลดลงเหลือ 3.5% เมื่อตัวการจ้างงานสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่งรองรับการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายได้ เฟดจึงเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ส่งผลให้ดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้นสู่ 3.00-3.75% โดยตลาดยังคาดว่าการประชุมเฟดในเดือน พ.ย. และ ธ.ค. จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งละ 0.5-0.75% ซึ่งความกังวลดังกล่าวสะท้อนผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 14 ปีที่ระดับ 4.33% สอดคล้องกับดัชนีดอลลาร์ที่ปรับตัวขึ้นระดับ 113.92 ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่ากดดันราคาทองคำ ขณะที่ SPDR เทขาย -18.56 ตัน
เดือนนี้แนะนำจับตาผลการประชุมเฟดซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.75% เพื่อชะลอเงินเฟ้อ นอกจากนี้เฟดมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% จากที่ก่อนหน้านี้คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือน ธ.ค. ส่งผลให้กรอบดอกเบี้ย ณ สิ้นปี 65 อยู่ที่ 4.25-4.50% ทำให้ตลาดผ่อนคลายมากขึ้น และผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐเริ่มอ่อนตัวลง เป็นแรงหนุนให้ทองคำ
ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่า ราคาจะฟื้นตัวขึ้นหลังการประชุมเฟดเพราะราคาทองคำได้ตอบรับข่าวดังกล่าวไปแล้ว อีกทั้งเฟดมีแนวโน้มชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้ตลาดผ่อนคลายมากขึ้นหนุนแรงซื้อกลับเข้ามาในทองคำ
ฝ่ายวิจัยคาดทองคำเคลื่อนไหว sideway up ในกรอบ 1,600-1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยให้ซื้อขายตามกรอบที่ให้ไว้
ส่วนบรรยากาศตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (4 พ.ย.) ดัชนี ปรับตัวขึ้นในแดนบวก สูงสุด +10 จุด ปิดตลาดเหลือ+0.70จุด นักลงทุนติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. ของสหรัฐ แรงซื้อมีเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มการเงิน ส่วนแรงขายเข้ามาช่วงท้ายตลาด ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,626.32 จุด +0.70 จุด +0.04% มูลค่าการซื้อขาย 63,604 ล้านบาท
ฝ่ายวิจัยคาดดัชนีสัปดาห์นี้แกว่งตัวผันผวนออกข้าง หลังจากปรับตัวขึ้นแรงในสัปดาห์ก่อน โดยมีแรงหนุนจากเม็ดเงิน Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้าต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนยังติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยออกมา คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,610-1,650 จุด
ส่วนหุ้นที่น่าจับตามองสัปดาห์นี้ได้แก้ หุ้น BANPU ราคาปิดล่าสุด อยู่ที่ 12.90 บาท กลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกระดับ โดยมี Volume เข้าวันแรก และ Slow Sto. ส่งสัญญาณซื้อต่อเนื่อง คาดราคามีโอกาสทดสอบต้านที่ 13.50-13.90 บาท มีแนวรับอยู่ที่ 12.60 บาท และมีจุด cut loss อยู่ที่ 12.40 บาท
และหุ้น SAWAD ราคาปิดล่าสุด 42.50 บาท ฟื้นตัวจากระดับ Bottom พร้อม Volume เพิ่มขึ้นชัดเจน และ MACD มีค่าสัญญาณบวกหนุน หากผ่าน EMA-50 ที่ 44.00 บาท ลุ้นทดสอบ EMA-75 ที่ 46.0 บาท มีแนวรับอยู่ที่ 41.00 บาท และมีจุด cut loss อยู่ที่ 40.00 บาท
ข่าวเด่น