คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1605-1630 จุด โดยคาดว่ากรอบล่างบริเวณแนวรับ 1605-1610 จุด ยังรองรับได้ อย่างไรก็ตาม ตลาดที่ดูขาดปัจจัยหนุนใหม่ในช่วงนี้ และยังเผชิญแรงขายทำกำไร ทำให้กรอบบนยังถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1625-1630 จุด
ประเด็นสำคัญ
ทางการจีนระบุการระบาดของโควิด-19 รุนแรงสุดในรอบ 3 ปี หลังเกิดการระบาดซับซ้อนขึ้นเป็นห่วงโซ่ในกลุ่มผู้ติดเชื้อหลายมณฑล
จับตารายงานประชุม FOMC ในวันนี้ ต่อทิศทางของขึ้น ด.บ. ของ Fed ในช่วงเวลาต่อไป รวมทั้งความเห็นของ จนท. Fed
ซาอุดีอาระเบียยืนยันว่าไม่ได้หารือกับสมาชิกกลุ่ม OPEC เกี่ยวกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุม OPEC+ 4 ธ.ค. นี้
รัฐบาลเตรียมออกมาตรการช่วยค่าไฟฟ้างวดใหม่ คาด ธ.ค.นี้ได้ข้อสรุป
ครม. เห็นชอบปรับหลักเกณฑ์โครงการซอฟต์โลน ธุรกิจโรงแรม เพื่อช่วยเหลือ SMEs ธุรกิจโรงแรม โดยขยายเวลาขอสินเชื่อถึง 30 มิ.ย. 66
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ คาดตลาดที่อยู่อาศัยปีหน้ามีโอกาสหดตัว -1.1% กดดันจากการไม่ต่ออายุการผ่อนคลายมาตรการ LTV
TRUE และ DTAC แจ้งว่า Citrine Venture ประกาศขอยกเลิกการทำ VTO เนื่องจากเลยกำหนดเวลา 1 ปี แต่ยังคงดำเนินการควบรวมกิจการต่อไป
HP ประกาศลดพนักงาน 6 พันตำแหน่ง สอดคล้อง JD.com ประกาศลดเงินเดือนผู้บริหาร 20%
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวแคบและมีโอกาสพักตัว หลังตลาดยังขาดปัจจัยใหม่ๆ มาหนุนบรรยากาศการลงทุน ทั้งนี้ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ อาทิ GDP 3Q65 ของไทยและรายงานการประชุม FOMC ที่ตลาดมองหาสัญญาณการเปลี่ยนท่าทีการทำนโยบายการเงิน ดังนั้นกลยุทธลงทุนจึงแนะนำเป็น “Selective Buy” โดยเน้นรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมองตลาดยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ จึงแนะนำ Selective Buy โดยเน้นรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้นที่คาดโมเมนตัมกำไร 4Q65 เติบโตแข็งแกร่ง YoY และ QoQ เลือก BBL GULF MAKRO CRC SPALI AOT
2) หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์จีนมีแนวโน้มเปิดประเทศมากขึ้น ซึ่งคาดหนุนท่องเที่ยวและเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว เลือก MINT ERW / SCGP IVL
3) หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์จากเทศกาลฟุตบอลโลก (20 พ.ย.-18 ธ.ค. 65) ซึ่งคาดกระตุ้นบรรยากาศการบริโภคในช่วงเชียร์บอล เลือก CPALL CENTEL MINT
ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้
1) หุ้นที่คาดถูกนำออก SET50 ซึ่งจะประกาศ 16 ธ.ค. 65 และมีผลบังคับใช้ใน 1H66 อาทิ BLA IRPC KCE SAWAD (SET100 ที่คาดถูกนำออก MAJOR STEC SUPER SYNEX TASCO TTA)
2) หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากบาทแข็งค่าและผลประกอบการหุ้นเทคโนโลยีของโลกมีแนวโน้มอ่อนแอต่อใน 4Q65
3) หุ้นเดินเรือ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากอุปทานเรือใหม่ที่เข้ามาและอุปสงค์การขนส่งสินค้าเริ่มชะลอตัวลง
Daily focus
MINT คาดปี 65 จะรายงานกำไรปกติได้และฟื้นตัวดีต่อเนื่องในปี 66 จากการดำเนินงานโรงแรมในต่างประเทศและธุรกิจอาหาร ทั้งนี้มองปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและคาดหวังจีนกลับมาเปิดประเทศมากขึ้นจะช่วยหนุนให้ราคาหุ้นปรับขึ้นต่อได้
PTTEP มองจะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันระดับที่กลับมาปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ทั้งปี 65 คงคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 91%YoY สู่ 7.2 หมื่นลบ. และอาจมี upside อยู่บ้าง เมื่อพิจารณาจากกำไรที่แข็งแกร่งใน 3Q65
ข่าวเด่น