ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบ แต่มีการปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่บริเวณ 1,756 เหรียญ ขณะที่ทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า ด้านกองทุนทองคำ SPDR ปัจจุบันถือครองเท่าเดิมที่ 906.93 ตัน สำหรับดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้เคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบ และอยู่ในทิศทางอ่อนค่า โดยเมื่อวานนี้เคลื่อนตัวอยู่ในกรอบระหว่าง 105.63 - 106.07 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 105.88 จุด ส่งผลให้ค่าเงินบาทอยู่ในทิศทางแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากที่ดัชนีดอลลาร์หลุดระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์ลงมาทรงตัวอยู่ที่บริเวณ 35.80 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 35.65 บาทต่อดอลลาร์ ด้านนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีโอกาสสูงขึ้นเกือบ 50% ที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2566 เนื่องจากมีความเสี่ยงที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคจะชะลอตัวลง ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุผลที่กรรมการเฟดส่วนใหญ่จึงพิจารณาว่า การชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้น่าจะเป็นเรื่องที่เหมาะสม
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำเริ่มกลับมาทรงตัวอยู่เหนือระดับ 1,750 เหรียญอีกครั้ง ทำให้ภาพหลักของราคาทองคำเริ่มกลับเข้าสู่ทิศทางแนวโน้มขาขึ้น โดยราคาทองคำยังมีความผันผวนตามกระแสข่าวที่เข้ามาเป็นปัจจัยกระทบ วันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ 1,725 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,765 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,735 เหรียญ และแนวต้าน 1,775 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,725 เหรียญ และแนวต้าน 1,765 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 29,500 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 30,000 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series Z22 จะมีแนวรับที่ระดับ 29,850 บาท และแนวต้านที่ระดับ 30,200 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 5-10 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำลงทุนในกรอบ Sideways Up ตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น ลงซื้อขึ้นขาย
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรเมื่อราคาดีดกลับ
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับเมื่อราคาย่อตัว
ข่าวเด่น