พล.อ.ท.ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีการชี้แจงให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ หลังจากที่ผ่านมาได้ดำเนินการรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้เกี่ยวข้องด้านวิทยุกระจายเสียง จำนวน 5 ครั้ง โดยจัดขึ้นทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ในรูปแบบ Onsite และ Online ซึ่งเป็นการพบปะเพื่อรับฟังจากผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง ผู้แทนสมาคม สมาพันธ์ องค์กรภาคีเครือข่าย กลุ่มผู้รับใบอนุญาต กลุ่มผู้ทดลองออกอากาศ ผู้ดำเนินรายการ ผู้ผลิตรายการ รวมทั้งกลุ่มผู้ฟังวิทยุ จากนั้นได้นำมารวบรวมเป็นข้อมูลเพื่อพิจารณาดำเนินการในการยกระดับกิจการกระจายเสียงไทย เพื่อก้าวสู่มาตรฐานสากลเพื่อสร้างสรรค์สังคมและเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ซึ่งจากการรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ผ่านมาได้มีข้อคิดเห็นจำนวน 212 ประเด็น จึงได้นำมาจัดเป็นหมวดหมู่ได้ 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ ประเด็นด้านเนื้อหารายการ ประเด็นด้านการอนุญาต ประเด็นด้านเทคนิค ประเด็นด้านการเงิน และประเด็นด้านอื่นๆ เช่น เรตติ้งวิทยุดิจิทัล การส่งเสริมสนับสนุน เป็นต้น ทั้งนี้ได้แบ่งแนวทางดำเนินการในการแก้ปัญหา เป็น 2 กลุ่ม คือ 1. ปัญหาที่ กสทช. สามารถแก้ไขได้เลย ซึ่งขณะนี้ กสทช. ได้ดำเนินการแล้วบางส่วน เช่น การปรับปรุงกระบวนรับเรื่องร้องเรียนให้มีการดำเนินการที่รวดเร็วขึ้น และ การให้ความรู้และอบรมแนวทางในการออกอากาศ เป็นต้น 2.ปัญหาที่ ต้องมีการปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อนถึงจะดำเนินการแก้ไขปัญหาได้
พล.อ.ท.ดร.ธนพันธุ์ฯ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขปัญหากลุ่มที่ 2 นั้น ได้มีการนำเสนอต่อที่ประชุม กทสช. เพื่อให้พิจารณาปรับปรุงแก้ไขแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งเสนอให้แก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 7 ฉบับ ได้แก่
1. ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับการให้บริการกระจายเสียง
2. ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ว่าด้วยการทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียงในระบบเอฟเอ็ม
3. ประกาศ กสทช. เรื่อง แผนความถี่วิทยุกิจการกระจายเสียงระบบเอฟเอ็ม
4. ประกาศ กสทช. เรื่อง แผนความถี่วิทยุกิจการกระจายเสียงระบบเอฟเอ็มกำลังส่งต่ำ
5. ประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรฐานทางเทคนิคเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียงระบบเอฟเอ็ม กำลังส่งต่ำ
6. ประกาศ กสทช. เรื่อง การทดสอบมาตรฐานทางเทคนิคของเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียง ระบบเอฟเอ็ม กำลังส่งต่ำ
และ 7. ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ป้องกันการรบกวนการใช้คลื่นความถี่ของสถานีวิทยุกระจายเสียงต่อกิจการวิทยุการบิน
ซึ่งการปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ก็เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและง่ายต่อการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้การกำกับดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียงมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและลดข้อพิพาทต่างๆ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาจากการสิ้นสุดใบอนุญาตทดลองออกอากาศ ในปี 2567 รวมทั้งการจะพิจารณาอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ระบบเอฟเอ็มกำลังส่งต่ำให้ถึงในปี 2567 เช่นกัน ซึ่งในปีหน้า กสทช.จะศึกษาแนวทางในการอนุญาตกิจการกระจายเสียงในระบบดิจิทัล เพื่อเป็นทางเลือกหลังปี 2567 ไปพร้อมกันด้วย
“การรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงที่ผ่านมา เป็นความตั้งใจของผม ในฐานะ กสทช.ด้านกิจการกระจายเสียง ที่จะรับฟังเสียงจากผู้ประกอบกิจการฯ และผู้เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ต่างๆ ด้วยความโปร่งใส และเป็นธรรมเพื่อที่ กสทช.จะได้นำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเหล่านั้นมาใช้เป็นข้อมูลในการดำเนินการ ‘ยกระดับกิจการกระจายเสียงไทย เพื่อก้าวสู่มาตรฐานสากลเพื่อสร้างสรรค์สังคมและเศรษฐกิจที่ยั่งยืน’ ตามที่ผมได้ตั้งวิสัยทัศน์ไว้ตั้งแต่แรก ดังนั้นหากมีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดมาแอบอ้างว่าสามารถพูดคุย กับ กสทช. หรือ เสนอแนะและช่วยเหลือเรื่องใดๆ ได้เป็นกรณีพิเศษ ขออย่าได้หลงเชื่อเป็นอันขาด” พล.อ.ท.ดร.ธนพันธุ์ ฯ กล่าว
ข่าวเด่น