SET ปรับขึ้นอย่างโดดเด่น แต่จะเป็นแรงหนุนจากหุ้นเพียงบางกลุ่ม ทำให้แรงส่งดูไม่แข็งแรงนัก ดังนั้นให้จุดติดตามบริเวณ 1640 และ 1630 จุด หากไม่ต่ำกว่า คาดว่ายังปรับขึ้นได้ต่อ โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1660 และ 1670 จุด ตามลำดับ ประเด็นสำคัญ คืนนี้ ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ ที่คาดมีอิทธิพลต่อทิศทางตลาดในสัปดาห์หน้า
ประเด็นสำคัญ
สหรัฐรายงานดัชนี Core PCE พ.ย. +0.2%MoM ต่ำกว่าคาด และลดลงจาก ก.ย. ที่ +0.5%MoM บ่งชี้เงินเฟ้อสหรัฐผ่านจุดสูงสุดแล้ว
สหรัฐเตรียมพิจารณาเรียกเก็บภาษีนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์จากไทย มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา เนื่องจากผู้ผลิตจากจีนได้ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศทั้ง 4 เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีนำเข้าต่อสหรัฐ
วันนี้ติดตาม ก. คลังจะเปิดแถลงข่าวรายละเอียดภาษีขายหุ้น นอกจากนี้ยังระบุว่า รัฐบาลอยู่ระหว่างปฏิรูปรายได้เพื่อมาชำระหนี้เงินกู้ที่เกิดขึ้นในช่วงโควิด 2 ปีที่ผ่านมา พร้อมปรับโครงสร้างหนี้เพื่อให้มีความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการหนี้
เครดิตบูโรระบุหนี้รายย่อย 3Q65 หนี้เสียทั้งระบบอยู่ที่ 1.1 ล้านลบ. NPL 8.5% หนี้ค้างชำระขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินเชื่อบุคคล
EEC ระบุหารือรัฐบาล-เอกชนจากซาอุดีอาระเบีย คาดปีหน้าลงทุนกว่า 3 แสนลบ. ตั้งเป้าไทยเป็นศูนย์กลางผลิต EV ใน 2 ปี
กกพ.สรุปยอดผู้ยื่นคำขอขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนแบบ FiT ปี 2565-73 รวม 670 โครงการ ปริมาณไฟฟ้ารวม 17,400 MW
AOT เตรียมขยายสนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ ล่าสุด ผดส. 2.6 แสนคน/วัน คาดปีหน้าสถานะการเงินเป็นบวก-ปี 2567 มีกำไร
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET ยังอยู่ในช่วงพักตัว หลังตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ มาหนุนบรรยากาศลงทุน ดังนั้นกลยุทธลงทุนจึงแนะนำเป็น “Selective Buy” โดยเน้นรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมองตลาดยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ จึงแนะนำ Selective Buy โดยเน้นรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้นที่คาดโมเมนตัมกำไร 4Q65 เติบโตแข็งแกร่ง YoY และ QoQ เลือก BBL GULF MAKRO CRC SPALI AOT
2) หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์จากเทศกาลฟุตบอลโลก (20 พ.ย.-18 ธ.ค. 65) และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เลือก CPALL CENTEL MINT
ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้
1) หุ้นที่คาดถูกนำออก SET50 ซึ่งจะประกาศ 16 ธ.ค. 65 และมีผลบังคับใช้ใน 1H66 อาทิ BLA IRPC KCE SAWAD (SET100 ที่คาดถูกนำออก MAJOR STEC SUPER SYNEX TASCO TTA)
2) หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากบาทแข็งค่าและผลประกอบการหุ้นเทคโนโลยีของโลกมีแนวโน้มอ่อนแอต่อใน 4Q65
3) หุ้นเดินเรือ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากอุปทานเรือใหม่ที่เข้ามาและอุปสงค์การขนส่งสินค้าเริ่มชะลอตัวลง
Daily focus
BCP 4Q65 คาดกำไรปรับตัวดีขึ้น QoQ จากค่าการกลั่นที่ดีขึ้น และขาดทุนสินค้าคงเหลือจะลดลงหลังราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับทรงตัวจาก 3Q22 อีกทั้งธุรกิจ E&P จะสร้างกำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งมีแรงหนุนจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นและราคาน้ำมันที่แข็งแกร่ง
GULF 4Q65 คาดผลประกอบการจะได้แรงหนุนจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการโรงไฟฟ้า GSRC เพิ่มอีกหนึ่งหน่วย (662.5MW) ส่วนปี 66 คาดกำไรยังโตดี 30%YoY จากกำลังผลิตใหม่ของโรงไฟฟ้า IPP โรงไฟฟ้าแห่งใหม่ในโอมาน และส่วนแบ่งกำไรจาก INTUCH
ข่าวเด่น