SET ยังได้รับ Sentiment ลบ จากกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยในเชิงรุกต่อ และภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐในปีหน้า รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับลงกดดันราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน กดดันดัชนีคาดลงทดสอบแนวรับสำคัญบริเวณ 1610-1615 จุด ซึ่งใช้เป็นจุดติดตาม หากยืนได้ มีโอกาสเริ่มฟื้นตัวกลับ ส่วนกรณีต่ำกว่าเป็นลบต่อ และมีแนวรับถัดไปที่ 1600 จุด
ประเด็นสำคัญ
จีนประกาศ 10 มาตรการโควิดใหม่ เช่น ห้ามล็อกดาวน์-ตรวจโควิดแบบเหมารวม งดจำกัดเดินทาง ผู้มีอาการน้อยกักตัวที่บ้านได้ เร่งฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุ ถือเป็นการส่งสัญญาณเปิด ปท. ต้นปีหน้า
ธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐ GS, JPM, BofA ออกมาเตือนเกี่ยวกับแนวโน้มที่ ศก. สหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า
รัสเซียเตรียมระงับขายน้ำมันให้บางประเทศเพื่อตอบโต้ EU ที่บังคับใช้มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย 60 ดอลลาร์/บาร์เรล
พาณิชย์รายงานอัตราเงินเฟ้อ พ.ย. +5.55%YoY -0.13%MoM คาดเงินเฟ้อปีนี้ค่ากลางอยู่ที่ 6% ส่วนเงินเฟ้อปี 66 คาด 2-3%
กกร. คาด GDP ปีนี้โต 3.2% ส่งออกโต 7.25% เงินเฟ้อคาด 6.2% และในสัปดาห์นี้จะทำหนังสือถึง ก. พลังงานชะลอขึ้นค่า Ft งวด ม.ค.-เม.ย. 66
ยอดจองรถยนต์ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2020 ในช่วงครึ่งทาง (30 พ.ย.-6 ธ.ค.65) มียอดจองรถยนต์สะสมทั้งสิ้น 11,518 คัน
ผู้ส่งออกปูนซีเมนต์ของไทยเตรียมส่งออกไปยังฟิลิปปินส์ได้อีกครั้งหลังทางการฟิลิปปินส์ไม่ต่ออายุมาตรการปกป้องจากการนำเข้า
KBANK ประกาศปรับขึ้น ด.บ. เงินฝากประจำ 0.10%-0.40% และปรับขึ้น ด.บ. เงินกู้ MLR MOR ในอัตรา 0.25% และ MRR อัตรา 0.13% มีผลวันนี้
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังตลาดยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ กลยุทธลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” โดยเน้นรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมองตลาดยังขาดปัจจัยชี้นำ จึงแนะนำ Selective Buy โดยเน้นรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้นเก็งกำไรจากความคาดหวังจีนเปิดประเทศหรือคลายมาตรการล็อกดาวน์มากขึ้น เลือก SCGP IVL/MINT ERW
2) หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์จากการจัดงานมหกรรมยานยนต์ (Motor Expo ครั้งที่ 39 ซึ่งตลาดคาดเงินสะพัด 5.0 หมื่นลบ. เติบโต 16%YoY) เลือก TISCO
3) หุ้นที่คาดโมเมนตัมกำไร 4Q65 เติบโตแข็งแกร่ง YoY และ QoQ อีกทั้ง Valuation ยังน่าสนใจ เลือก BBL GULF SPALI AOT CPALL AU
ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้
1) หุ้นที่คาดถูกนำออก SET50 ซึ่งจะประกาศ 16 ธ.ค. 65 และมีผลบังคับใช้ใน 1H66 อาทิ BLA IRPC KCE SAWAD (SET100 ที่คาดถูกนำออก MAJOR STEC SUPER SYNEX TASCO TTA)
2) หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากบาทแข็งค่าและผลประกอบการหุ้นเทคโนโลยีของโลกมีแนวโน้มอ่อนแอต่อใน 4Q65
3) หุ้นเดินเรือ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากอุปทานเรือใหม่ที่เข้ามาและอุปสงค์การขนส่งสินค้าเริ่มชะลอตัวลง
Daily focus
AEONTS มอง Valuation ถูกที่สุด (PE 9.1x และ PBV 1.8x สำหรับปี FY2566) ขณะที่ 3QFY65 คาดกำไรเติบโตดีทั้ง YoY และ QoQ จากสินเชื่อที่โตดีขึ้น NIM ที่ลดลงเล็กน้อย หนี้สูญได้รับคืนที่เพิ่มขึ้น และมีกำไรจากขาย NPL จำนวนมาก
BDMS 4Q65 คาดกำไรเพิ่มขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากบริการที่ไม่เกี่ยวกับโควิด-19 ที่เติบโตเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ป่วยชาวไทยและโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวต่างชาติซึ่งมีการนัดหมายเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากไทยกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง
ข่าวเด่น