บมจ.ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น บริษัทชั้นนำด้านการผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงและขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงประเภทแมวและสุนัขที่มีรายได้เป็นอันดับ 2 ของเอเชีย และติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 9 ธ.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 96,000 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า “ITC”
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ.ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “ITC” ในวันที่ 9 ธันวาคม 2565
ITC เป็นหนึ่งในผู้นำในการรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียก และบริษัทแกนนำ (Flagship) ในการประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับสัตว์เลี้ยงของ บมจ. ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (“TU”) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตทูน่าแปรรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดย ITC ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงและขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงประเภทแมวและสุนัขทั้งผลิตภัณฑ์ระดับทั่วไป (Mainstream Products) ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม (Premium Products) โดยมีรูปแบบการจำหน่ายสินค้าส่วนใหญ่แบบรับจ้างการผลิตและจำหน่าย (OEM) ให้แก่ลูกค้าที่เป็นเจ้าของแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่ระดับโลก เช่น Mars และ Smucker’s
ITC มีทุนชำระแล้วหลังการเสนอขาย 3,000 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนรวม 660 ล้านหุ้น ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิมที่ถือโดย TU 60 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 600 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 32 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 19,200 ล้านบาท มูลค่าเสนอขายรวม 21,120 ล้านบาท โดยถือเป็นหุ้นไอพีโอ (IPO) ที่มีมูลค่าการเสนอขายสูงที่สุดในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทย และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 96,000 ล้านบาทโดยมีระยะเวลาการเสนอขายระหว่างวันที่ 22 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2565 โดยกำหนดระยะเวลาเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นของ TU ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นฯ ในระหว่างวันที่ 22 - 24 พฤศจิกายน 2565 การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) 22.26 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการตามงบการเงินเสมือนในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 4,313.1 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น (Fully Diluted EPS) เท่ากับ 1.44 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
นายพิชิตชัย วงศ์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า การนำ ITC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยเสริมศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของบริษัท ในการมุ่งสู่การเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำระดับสากล โดยมีแผนจะนำเงินจากการระดมทุนในครั้งนี้ไปลงทุนขยายโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนการผลิต ทั้งการขยายโรงงานเครื่องจักร และระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และรวมถึงเพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต
ITC มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิ ตามงบการเงินรวม ซึ่งจำนวนดังกล่าวเป็นจำนวนสุทธิหลังจากการหักเงินสำรองตามกฎหมาย โดยการจ่ายเงินปันผล จะขึ้นอยู่กับแผนการลงทุน เงื่อนไขและข้อจำกัด
ทั้งนี้ ITC มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่ บมจ. ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ถือหุ้นรวม 78%
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.i-tail.com และที่ www.set.or.th
ข่าวเด่น