แม้ SET ได้รับ Sentiment บวก หลังเงินเฟ้อสหรัฐประจำเดือนพ.ย. ออกมาต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตาม ในคืนนี้ยังมีประเด็นสำคัญรออยู่ สำหรับผลประชุมเฟด โดยเฉพาะตลาดจะติดตามถ้อยแถลงของ Powell ต่อสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยในปีหน้า ทำให้มองดัชนีจะแกว่งในกรอบระหว่าง 1615-1635 เพื่อรอประเด็นสำคัญดังกล่าว
ประเด็นสำคัญ
CPI พ.ย. สหรัฐ +7.1YoY +0.1%MoM ต่ำกว่าคาด บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐผ่านจุดสูงสุดแล้ว
วันนี้จับตาผลการประชุม FOMC คาดปรับขึ้น ด.บ. 0.5% สู่ระดับ 4.25-4.50% และจับตาถ้อยแถลง ปธ. Fed และ Dot Plot ถึงทิศทาง ด.บ. ปีหน้า
OPEC คาดอุปสงค์น้ำมันปี 2566 เพิ่มขึ้น 2.25 ล้านบาร์เรล/วัน หรือราว 2.3% จาก ศก. โลกฟื้นตัว และจีนผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด
EU บรรลุข้อตกลงเก็บภาษีปล่อยก๊าซ CO2 กับสินค้านำเข้าที่ก่อมลพิษกับ บ. ทั้งในและนอก EU โดยจะกำหนดวันเริ่มบังคับใช้อีกครั้ง
ครม.เห็นชอบแผนพัฒนาโลจิสติกส์ไทย ปี 2566-70 ลดต้นทุนขนส่งเหลือ 5% ของ
GDP ผลักดันไทยเป็นประตูการค้าภูมิภาคอาเซียน
กกพ. เตรียมสรุปสูตร Ft งวด ม.ค.-เม.ย.66 สัปดาห์นี้ ภาคอุตสาหกรรมปรับขึ้นเกิน 5 บ./หน่วย ด้าน ส.อ.ท. คาดกระทบราคาสินค้าขึ้น 5-12%
ยอดจองรถในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป รวมทั้งสิ้น 42,768 คัน ขณะที่ยอดจองรถ EV อยู่ที่ 3.6 หมื่นคัน คาดยังมียอดจองต่อเนื่องถึงปีหน้า
อานิสงส์ฟุตบอลโลก หนุนยอดขายทีวีปีนี้ขยายตัว 1% มูลค่า 2.3 หมื่นลบ. หลังหดตัวต่อเนื่อง 3 ปี คาดตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจะฟื้นตัวเต็มที่
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1600-1640 จุด หลังตลาดยังอยู่ระหว่างรอปัจจัยชี้นำใหม่ โดยสัปดาห์นี้มีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คือ การประชุมนโยบายการเงินของ FED, BoE, ECB ดังนั้นกลยุทธลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมองตลาดยังขาดปัจจัยชี้นำ จึงแนะนำ Selective Buy โดยเน้นรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์จากการทำ Window Dressing (ราคาหุ้นปรับลง QTD และ YTD อีกทั้งมีสถิติในอดีต 5 ปีย้อนหลังให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกในช่วงปลายปี) เลือก CPF ADVANC
2) หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์จากการเปิดตัวของ Tesla ในไทย เลือก AMATA WHA TISCO
3) หุ้นที่คาดโมเมนตัมกำไร 4Q65 เติบโตแข็งแกร่ง YoY และ QoQ อีกทั้ง Valuation ยังน่าสนใจ เลือก BBL GULF AOT CPALL AU
ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้
1) หุ้นที่คาดถูกนำออก SET50 ซึ่งจะประกาศ 16 ธ.ค. 65 และมีผลบังคับใช้ใน 1H66 อาทิ BLA IRPC KCE SAWAD (SET100 ที่คาดถูกนำออก MAJOR STEC SUPER SYNEX TASCO TTA)
2) หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากบาทแข็งค่าและผลประกอบการหุ้นเทคโนโลยีของโลกมีแนวโน้มอ่อนแอต่อใน 4Q65
3) หุ้นเดินเรือ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากอุปทานเรือใหม่ที่เข้ามาและอุปสงค์การขนส่งสินค้าเริ่มชะลอตัวลง
Daily focus
AP ปี 2565 คาดจะรายงานกำไรสุทธิสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ 5.84 พันลบ. เติบโต 29%YoY แรงหนุนจาก Backlog ที่แข็งแกร่ง อัตรากำไรขั้นต้นที่ดี และส่วนแบ่งกำไร JV ที่เพิ่มขึ้น
PTTEP มองจะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันระดับที่กลับมาปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ทั้งปี 65 คงคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 91%YoY สู่ 7.2 หมื่นลบ. และอาจมี upside อยู่บ้าง เมื่อพิจารณาจากกำไรที่แข็งแกร่งใน 3Q65
ข่าวเด่น