เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยวิเคราะห์ "ส่งออกน้ำตาลทรายไทยปี 66 คาดโต 1-5%: ท่ามกลางปัจจัยท้าทายรอบด้าน"


· ปี 2565-2566 น้ำตาลทรายน่าจะเป็นหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลักดันการส่งออกสินค้าอาหารและเครื่องดื่มของไทย จากอานิสงส์ราคาน้ำตาลในตลาดโลกที่ยืนตัวสูง ปริมาณผลผลิตน้ำตาลทรายของไทยที่กลับมาฟื้นตัว ท่ามกลางสถานการณ์โควิดในหลายประเทศที่เริ่มคลี่คลายและวิกฤตอาหารทั่วโลก ที่ส่งผลให้น้ำตาลทรายยังคงเป็นที่ต้องการ อย่างไรก็ดี ยังมีความท้าทายจากการแข่งขันในตลาดการค้าโลก ข้อสรุปที่ยังไม่ชัดเจนของร่าง พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทรายฉบับใหม่ รวมถึงนโยบายและเทรนด์การบริโภคน้ำตาลของคู่ค้า ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องถึงทิศทางการผลิตและส่งออกน้ำตาลทรายของไทยในระยะต่อไปได้


· ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า มูลค่าการส่งออกน้ำตาลทรายไทยปี 2566 อาจอยู่ที่ระดับ 3,660 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 1-5% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่คาดว่าจะเติบโตสูงถึง 125% โดยในปี 2566 การเติบโตเป็นผลจากปริมาณเป็นหลัก (Q) จากปริมาณส่งออกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในตลาดคู่ค้าหลักที่มีความต้องการต่อเนื่อง และอานิสงส์จากคู่ค้าใหม่ที่หาตลาดทดแทนจากมาตรการจำกัดการส่งออกน้ำตาลทรายของอินเดีย ขณะที่การเติบโตจากฝั่งราคา (P) อาจปรับลดลงตามทิศทางราคาน้ำตาลในตลาดโลก

 
ในปี 2565-2566 น้ำตาลทรายน่าจะเป็นหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลักดันการส่งออกสินค้าอาหารและเครื่องดื่มของไทย โดยไทยถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและผู้ส่งออกน้ำตาลทรายอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งได้รับอานิสงส์ราคาน้ำตาลในตลาดโลกที่ยืนตัวในระดับสูง ผลผลิตน้ำตาลทรายของไทยที่กลับมาฟื้นตัวและออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิดในหลายประเทศและวิกฤตอาหารทั่วโลก ที่ส่งผลให้น้ำตาลทรายยังคงเป็นที่ต้องการ เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต พลังงานและสร้างความมั่นคงทางอาหารในประเทศ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ปี 2566 มูลค่าการส่งออกน้ำตาลทรายของไทยน่าจะขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2565 ที่อาจเติบโตได้ถึง 125% (โดย 10 เดือนแรกของปี 2565 ขยายตัว 120.1%YoY เป็นผลจากราคา (P) 13.2% เป็นผลจากปริมาณ (Q) 94.5% เนื่องจากฐานที่ต่ำในช่วงปี 2563-2564 จากผลกระทบโควิด ที่ทำให้ปริมาณผลผลิตและสต็อกน้ำตาลทรายของไทยเพียงพอกับความต้องการในตลาดส่งออกที่เพิ่มขึ้นสูง แต่การเติบโตของปี 2566 คงอยู่ในกรอบที่จำกัด จากหลากหลายปัจจัยท้าทาย ดังนี้

1) ปริมาณผลผลิตน้ำตาลทรายในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้ระดับราคาน้ำตาลทรายโลกปรับลดลงจากปี 2565: ผลผลิตน้ำตาลโลกปี 2565/2566 มีแนวโน้มขยับขึ้น โดยเฉพาะจากบราซิล ไทยและจีน จากผลผลิตอ้อยที่สูงจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ซึ่งน่าจะชดเชยผลผลิตที่ลดลงของอินเดียและอียูได้ ส่งผลให้ระดับราคาน้ำตาลทรายล่วงหน้าในตลาดโลกปี 2566 อาจเฉลี่ยอยู่ที่ 17.6-18.6 เซนต์ต่อปอนด์ ปรับลดลง
เล็กน้อยจากปี 2565 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 18.6 เซนต์ต่อปอนด์1 จึงคาดว่าราคาส่งออกน้ำตาลทรายของไทยในปี 2566 น่าจะมีทิศทางปรับย่อลงและสอดรับไปกับราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลก

2) ไทยอาจได้อานิสงส์บางส่วนจากมาตรการจำกัดการส่งออกน้ำตาลทรายของอินเดียและการสร้างความมั่นคงด้านอาหารในบางประเทศ แต่ยังคงเผชิญการแข่งขันที่สูงด้านราคา: อินเดีย ผู้ผลิตน้ำตาลทรายอันดับ 2 ของโลก ขยายเวลาจำกัดการส่งออกน้ำตาลออกไปอีกอย่างน้อย 1 ปี (สิ้นเดือนตุลาคม 2566) เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำตาลทรายในประเทศจากภาวะเงินเฟ้อ อาจส่งผลเชิงบวกต่อไทยจากการหาตลาดทดแทนของคู่ค้าอินเดียที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้ โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ซูดาน ซึ่งพึ่งพาการนำเข้าน้ำตาลทรายจากอินเดียในสัดส่วนที่สูง นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังเป็นตลาดส่งออกหลักของไทย ซึ่งไทยค่อนข้างได้เปรียบด้านระยะขนส่งที่ใกล้เมื่อเทียบกับคู่แข่ง

 
ขณะที่ภาพรวมการส่งออกน้ำตาลทรายของไทย ก็พบว่า มีตลาดคู่ค้าใหม่หลายประเทศที่มีความต้องการนำเข้าน้ำตาลทรายจากไทยมากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารในประเทศ อาทิ จีน2 แทนซาเนีย เคนยา3 เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของการส่งออกน้ำตาลทรายของไทยยังเผชิญกับการแข่งขันด้านราคา โดยเฉพาะกับคู่แข่งสำคัญอย่าง บราซิล ซึ่งมีส่วนแบ่งการส่งออกราว 21% ของการส่งออกน้ำตาลทรายทั้งหมดของโลก (ผู้ส่งออกน้ำตาลทรายอันดับ 1 ของโลก) ขณะที่การย่อตัวของราคาส่งออกน้ำตาลทรายไทยในปี 2566 น่าจะอยู่ในกรอบที่จำกัด จากต้นทุนการผลิตที่ขยับสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าปุ๋ยและสารเคมี ค่าแรงงาน ค่าพลังงานและขนส่ง ฯลฯ จึงทำให้น้ำตาลทรายส่งออกจากไทยค่อนข้างเสียเปรียบคู่แข่ง โดยเฉพาะบราซิล ซึ่งมีราคาต่อหน่วยอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า อีกทั้งยังพยายามที่จะขยายตลาดน้ำตาลทรายในฝั่งเอเชียให้ได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในตลาดอินโดนีเซีย มาเลเซีย (คู่ค้ารายสำคัญของไทย) รวมถึงจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหม่ที่ไทยกำลังเข้าไปทำตลาดด้วย

3) ข้อสรุปที่ยังไม่แน่ชัดของร่าง พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทรายฉบับใหม่ อาจส่งผลต่อการผลิตและการส่งออกน้ำตาลทรายในระยะข้างหน้า โดยยังต้องติดตามความชัดเจนโดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับผลพลอยได้ของการผลิตน้ำตาล ซึ่งปัจจุบันยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างของผู้เกี่ยวข้อง ทำให้แม้การทยอยเปิดหีบอ้อยและผลิตน้ำตาลทรายในปีการผลิต 2566 จะสามารถเดินหน้าได้ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และการส่งออกก็คงดำเนินการไปตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้เป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม การหาข้อยุติที่เป็นที่ยอมรับได้สำหรับทุกฝ่าย หากลากยาวออกไป อาจเป็นความเสี่ยงสำหรับการผลิตและการส่งออกน้ำตาลทรายในปีการผลิตถัดๆ ไปได้

ดังนั้น แม้ว่าด้วยโอกาสทางการค้าที่ยังคงมีอยู่ แต่ด้วยปัจจัยแวดล้อมเฉพาะธุรกิจที่ยังเต็มไปด้วยหลากหลายความท้าทาย ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า มูลค่าการส่งออกน้ำตาลทรายของไทยปี 2566 อาจอยู่ที่ระดับ 3,590-3,730 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือขยายตัว 1-5% (ค่ากลางอยู่ที่ 3.0%) ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ชะลอลงจากฐานที่สูงมากในปีก่อน โดยการเติบโตน่าจะเป็นผลมาจากปริมาณเป็นหลัก (Q) ซึ่งไทยน่าจะสามารถส่งออกได้เพิ่มในตลาดคู่ค้าหลักที่มีความต้องการต่อเนื่อง อาทิ อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ รวมถึงอานิสงส์จากคู่ค้าใหม่ๆ ที่หาตลาดทดแทนน้ำตาลทรายจากอินเดียและเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารในประเทศ เช่น จีน ซูดาน แทนซาเนียและเคนยา เป็นต้น ขณะที่การเติบโตจากฝั่งราคา (P) แม้ว่าทิศทางราคาน้ำตาลในตลาดโลกจะมีแนวโน้มปรับลดลง แต่ด้วยต้นทุนการผลิตของไทยที่มีแนวโน้มจะขยับขึ้น จึงทำให้ระดับราคาส่งออกน้ำตาลทรายของไทยอาจย่อตัวได้จำกัด

 
มองไปข้างหน้า นอกเหนือจากความท้าทายที่ได้กล่าวมาข้างต้น ผู้ประกอบการอาจต้องจับตาแนวโน้มการบริโภคน้ำตาลในหลายประเทศที่อาจลดลงตามเทรนด์สุขภาพ ซึ่งอาจส่งผลต่อคำสั่งซื้อน้ำตาลทรายของไทยในระยะต่อไปได้ โดยเฉพาะคู่ค้าที่มีตลาดปลายทางอยู่ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป สหรัฐฯ ที่เริ่มมีการออกกฎหมายต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง (อาทิ ภาษีความหวาน กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งอาจมีผลต่อทั้งซัพพลายเชนของน้ำตาล) รวมถึงนโยบายลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำตาลทรายของตลาดคู่ค้า เช่น จีนหรืออินโดนีเซีย ซึ่งเร่งขยายกำลังการผลิตในประเทศให้มากขึ้น ปัจจัยดังกล่าวอาจจะส่งผลต่อการส่งออกน้ำตาลทรายของไทยในระยะข้างหน้าได้

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 ธ.ค. 2565 เวลา : 11:53:35
30-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 30, 2024, 1:50 pm