SET จะได้รับ Sentiment บวก จากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐ อย่างไรก็ตาม สัญญาณเทคนิคที่เป็นลบ ทำให้มองการฟื้นตัวถูกจำกัดที่แนวต้าน 1620 และ 1630 จุด และในภาพรวมตลาดยังมี downside และให้ระวังความผันผวนของดัชนีจากเงินทุนไหลออกจากการ unwind Yen carry trade ด้านแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1600 และ 1590 จุด ตามลำดับ
ประเด็นสำคัญ
ยอดขายบ้านมือสอง พ.ย. ของสหรัฐ ลดลง 7.7% MoM ปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 10 และต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 2563
EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่แล้วลดลงมากกว่าคาด หนุนให้สัญญาน้ำมันดิบ WTI วานนี้เพิ่มขึ้นกว่า 2%
สาธารณสุขทั่วโลกกังวลสถานการณ์โควิดระลอกใหม่ในจีน อย่างไรก็ตาม ทางการจีนเริ่มอนุญาตให้ พนง. ในบางเมืองที่ป่วยโควิด-19 เพียงเล็กน้อยสามารถทำงานได้ตามปกติ เพื่อลดผลกระทบทาง ศก.
ปธน.ยูเครนมีกำหนดพบปะกับ ปธน.สหรัฐในวันนี้ คาดจะหารือด้านความช่วยเหลือทางการทหารครั้งใหม่แก่ยูเครน ด้านรัสเซียระบุการเยือนสหรัฐทำให้ไม่เห็นโอกาสเจรจาสันติภาพกับยูเครน
หุ้น Tech ของจีนกว่า 100 แห่ง เช่น Alibaba, Baidu, JD.com รอดพ้นถูกถอดถอนจากตลาดหุ้นสหรัฐ หลังรัฐบาลจีนยินยอมให้ คกก.กำกับดูแลด้านบัญชีของสหรัฐเข้าตรวจสอบเต็มรูปแบบได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ ส.ค.
สสว. ระบุดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ SMESI พ.ย. 65 เพิ่มต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ผลจากคลายล็อกโควิด-กิจกรรม ศก. ใน ปท. ขยายตัว
บ.วืทยุการบินฯ ระบุปริมาณเที่ยวบินตลอดปีนี้เพิ่มขึ้น 79%YoY ส่วนปีหน้าคาดโต 65%YoY โดยจะเตรียมมาตรการรับมือเต็มที่
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ 1600-1640 จุด เนื่องจากตลาดยังอยู่ระหว่างรอปัจจัยชี้นำใหม่ ทั้งนี้ปัจจัยในประเทศติดตามสัปดาห์นี้ คือ การประชุม ครม. เพื่อพิจารณามาตรการของขวัญปีใหม่ และดุลการค้าไทยเดือน พ.ย. 65 ส่วนปัจจัยต่างประเทศ คือ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ อาทิ GDP 3Q65 (ประกาศครั้งสุดท้าย), ตัวเลขตลาดบ้านและความเชื่อมั่นผู้บริโภค รวมทั้งสถานการณ์โควิดในจีน ทั้งนี้กลยุทธลงทุนยังคงแนะนำเป็น “Selective Buy”
Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมองตลาดยังขาดปัจจัยชี้นำ จึงแนะนำ Selective Buy โดยเน้นรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์จากมาตรการช้อปดีมีคืน เลือก HMPRO CRC CENTEL COM7
2) หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์จากการทำ Window Dressing (ราคาหุ้นปรับลงทั้ง YTD และ QTD รวมทั้งมีสถิติผลตอบแทนดีในช่วงปลายปี) เลือก CPF ADVANC
3) หุ้นที่คาดโมเมนตัมกำไร 4Q65 เติบโตแข็งแกร่ง YoY และ QoQ อีกทั้ง Valuation ยังน่าสนใจ เลือก BBL GULF CPALL AU AP
ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้
1) หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากบาทแข็งค่าและผลประกอบการหุ้นเทคโนโลยีของโลกมีแนวโน้มอ่อนแอต่อใน 4Q65
2) หุ้นเดินเรือ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากอุปทานเรือใหม่ที่เข้ามาและอุปสงค์การขนส่งสินค้าเริ่มชะลอตัวลง
Special Report : ติดตามอ่าน Yearbook 2023 ซึ่งมาด้วยแนวคิด “Hopping to the moon” เพื่อสื่อถึงมุมมองต่อการลงทุนที่ยังต้องทำแบบระมัดระวังแม้ว่าเริ่มเห็นโอกาสมากขึ้นก็ตาม พร้อม 10 หุ้น Top Picks 2023 ที่คัดสรรมาให้
Daily focus
BBL 4Q65 คาดกำไรจะเติบโตแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มธนาคาร รวมทั้งมองมีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ และจะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการกลับเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น
BCP 4Q65 คาดกำไรปรับตัวดีขึ้น QoQ จากค่าการกลั่นที่ดีขึ้น และขาดทุนสินค้าคงเหลือจะลดลงหลังราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับทรงตัวจาก 3Q22 อีกทั้งธุรกิจ E&P จะสร้างกำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งมีแรงหนุนจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นและราคาน้ำมันที่แข็งแกร่ง
ข่าวเด่น