เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
TISCO วิเคราะห์ทิศทางตลาดวันนี้ : ชะลอตัว Bond Yield ไต่ขึ้นต่อเนื่องกดดันการลงทุน


สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +16.36 จุด จีนเปิดปท. 8 ม.ค., ต่างชาติซื้อ 4.4 พันลบ. SET เปิดกระโดดขึ้นและแกว่งแดนบวกตลอดทั้งวันในกรอบ 1631-45 ปรับตัวขึ้น 5 วันติด อานิสงส์จีนเตรียมเปิดปท. 8 ม.ค. ซึ่งเร็วกว่าเดิมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางปีหน้า ขณะที่เงิน SSF&RMF ไหลเข้าต่อเนื่อง และต่างชาติพลิกซื้อสุทธิสูงถึง 4.46 พันลบ. และ Long S50 Futures มากถึง 45,831 สัญญา 4 วันติด 

 
 
ทิศทางตลาดวันนี้ : ชะลอตัว Bond Yield ไต่ขึ้นต่อเนื่องกดดันการลงทุน
หุ้นโลกเมื่อวาน (27 ธ.ค.) ปิด +/- ผสมผสาน โดยหุ้นยุโรปปิดบวก นลท.คาดหวังศก.จีนจะช่วยหนุนศก.โลก หลังจีนประกาศผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ โดยเฉพาะดัชนีหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ (NASDAQ) ปิดร่วงมากกว่า 1% หลัง Bond Yield ปรับขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด 10Y US Bond Yield ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องแตะระดับ 3.85% สูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดทรงตัวที่ 79.53 $/bbl หรือปรับลงเล็กน้อย -3 เซนต์  หลังโรงกลั่นน้ำมันบางส่วนในสหรัฐฯ เริ่มกลับมาดำเนินการอีกครั้ง ซึ่งบดบังข่าวจีนเปิดปท.ที่คาดจะช่วยหนุนความต้องการใช้น้ำมัน มอง SET มีแนวโน้มชะลอตัว หลังปรับขึ้น 5 วันติด และเข้ามาใกล้โซน 1650 ซึ่งเป็นแนวกดของเส้นแนวโน้มขาลงของปีนี้ คาดจะถูกถ่วงด้วย Bond Yield ที่ปรับตัวขึ้น ทำให้การประเมินมูลค่าผ่าน EYG เริ่มตึงตัวอยู่ที่ 2.8% vs ค่าเฉลี่ยที่อยู่ที่ 3.4% ส่วนการส่งออกไทยใน พ.ย. -6% YoY ติดลบ 2 เดือนติด จะเป็นตัวฉุดการเติบโตศก.ในปีหน้า เราคงคาดส่งออกปีหน้า -3.5% และ GDP โต +3.3% แนวรับ 1640, 1635 แนวต้าน 1650 
 
กลยุทธ์การลงทุน : หาจังหวะขายล็อกกำไร, พอร์ตลงทุน เน้นตั้งรับ-ถือข้ามปี
หลังจากที่ SET ขึ้นมาที่โซน 1640-50 เรามองเป็นจังหวะขายล็อกกำไร ทำรอบเทรดดิ้งสั้น รออ่อนตัวซื้อคืน-ตั้งรับ / พอร์ตลงทุน แนะถือลงทุนข้ามปี หาจังหวะสะสมเพิ่ม 
 
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick EGCO – รายงานการขายเงินลงทุนโรงไฟฟ้าความร้อนใต้พิภพในอินโดเซียทั้งหมดมูลค่า 485 ล้านดอลลาร์ฯ หรือเกือบ 1.7 หมื่นลบ., คาดการขายเงินลงทุนครั้งนี้จะทำให้มีกำไร 2.5-3.0 พันลบ.บันทึกใน 4Q22F ช่วยหนุนผลประกอบการออกมาดี, สำหรับเงินที่ได้รับครั้งนี้คาดจะนำไปลงทุนต่อในโครงการที่มีศักยภาพในการเติบโต รวมทั้งมีทางเลือกในการจ่ายคืนหนี้และจ่ายเงินปันผลที่สูงขึ้นได้, เป้าพื้นฐาน 228 บ. / หุ้นที่คาดได้ประโยชน์รัฐออกมาตรการกระตุ้นศก.รวมทั้งจีนเปิดปท. ชอบ CPALL, CRC, COM7, CENTEL, ERW, MINT, BDMS, SPA / หุ้นเข้าข่าย Window Dressing รอบนี้ - ADVANC, BDMS, INTUCH, TU, WHA / หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว - CPF (ซื้อหุ้นคืน), DTAC (แผนควบรวมเดินหน้าต่อ), III และ SCGP (จีนเปิดศก.) / หุ้นเข้า SET50 – DELTA, RATCH, COM7, CENTEL ออก – KCE, BLA, SAWAD, IRPC / เข้า SET100 – AAV, BYD, DELTA, JAS, NEX, SABUY, THG ออก – AEONTS, MAJOR, STEC, SUPER, SYNEX, TASCO, TTA / หุ้นปันผลน่าทยอยสะสมแต่เนิ่น ๆ BBL, KKP, LH, MC, QH, SMPC, SUSCO, TCAP, TFG / หุ้นเชิงรับที่ทนต่อความไม่แน่นอนศก. ADVANC, AOT, BDMS, BEM / Top Picks ช่วง 3 เดือนนี้ : BBL, SCB, CPALL, DTAC, LH, CENTEL, BDMS, CK, SABINA, PLANB / รัฐตรึงค่า Ft ม.ค. - เม.ย. 2023 สำหรับผู้ใช้ภาคครัวเรือนที่ 4.7 บ./หน่วย แต่ขึ้นค่า Ft สำหรับผู้ใช้เชิงพาณิชย์และภาคอุตฯ +21% จาก ก.ย. - ธ.ค. 2022 มาที่ 5.7 บ./หน่วย มองดีต่อ BGRIM, GPSC มากสุด แต่เป็นลบต่อกลุ่ม COMM จากต้นทุนค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
 
• หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ (Stock Focus) BDMS, KKP / หุ้นเด่น ธ.ค. (Smart Tactics) BBL, BDMS, CENTEL, CK, COM7, DTAC, PTG, RATCH 
 

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 28 ธ.ค. 2565 เวลา : 12:27:03
30-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 30, 2024, 11:35 am