ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำทรงตัว โดยมีการแกว่งตัวปรับสูงขึ้นในบางช่วงเพียงเล็กน้อยก่อนกลับมาปิดที่บริเวณ 1,805 เหรียญ ท่ามกลางความไม่ชัดเจนของทิศทางตลาดและปริมาณการซื้อขายที่เบาบางอยู่ในขณะนี้ ด้านตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ ได้แก่ Pending Home Sales m/m ปรับตัวลดลงกว่าที่คาดการณ์ สำหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Unemployment Claims คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้เปิดตลาดที่ 104.33 จุด ก่อนขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 104.56 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ 103.85 จุด โดยเช้านี้อยู่ที่ 104.30 จุด ยังคงเคลื่อนตัวในกรอบแคบ ด้านค่าเงินบาทเคลื่อนตัวแถวบริเวณ 34.70-34.80 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าภาพรวมดัชนีต่างๆ ยังคงเคลื่อนตัวในกรอบ Sideways ในปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจของไทยปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องที่ราว 3.5% สวนทางกับเศรษฐกิจโลก ที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่าจะชะลอลงเหลือ 2.7% ต่ำสุดในรอบ 21 ปี ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองเท่าเดิมที่ 918.51 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ Sideways ระยะสั้น วันนี้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวในกรอบโดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,795 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,820 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,800 เหรียญ และแนวต้าน 1,825 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,805 เหรียญ และแนวต้าน 1,830 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 29,400 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 29,900 บาท/บาททองคำ
ทั้งนี้ GOZ2 จะหมดอายุในวันที่ 29 ธ.ค. แนะนำให้ถือครอง GOH3 แทน
Gold Futures Series Z22 จะมีแนวรับที่ระดับ 29,670 บาท และแนวต้านที่ระดับ 30,000 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 5 – 10 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำลงทุนในกรอบ Sideways เน้นเทรดระยะสั้น เก็งกำไรในกรอบแคบ ลงซื้อขึ้นขาย รอดูความชัดเจนของทิศทาง
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรเมื่อราคาดีดกลับ
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวต้านและปิดทำกำไรตามแนวรับ
ข่าวเด่น