ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในวันสุดท้ายของปี โดยขึ้นมาปิดที่บริเวณ 1,824 เหรียญ โดยภาพรวมตลอดทั้งปีราคาทองคำปรับลดลงเพียง 0.1% เท่านั้น ซึ่งในช่วงระหว่างปีจะเห็นได้ว่าราคาทองคำมีความผันผวนปรับขึ้นไปทำสูงสุดถึง 2,070 เหรียญ และมีบางช่วงร่วงลงมาถึง 1,614 เหรียญ โดยราคาทองคำแกว่งตัวเกือบ 30% อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังสามารถกลับมาปิดใกล้เคียงเดิมในช่วงปลายปี 2565 จากการที่ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกในปี 2566 จะชะลอตัวลงเนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ อียู และจีน ชะลอตัวลงพร้อมกัน โดยปรับคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจจีนลงอีกหลังจากเพิ่งประกาศปรับลดไปแล้วหนึ่งเดือนก่อนหน้านั้นเนื่องจากข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องกับโควิด รวมถึงวิกฤติภาคอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ภาพรวมของเศรษฐกิจยูโรโซนเริ่มชะลอตัวลง แต่เศรษฐกิจเยอรมันยังคงแข็งแกร่งอยู่ ขณะที่การคาดการณ์ว่าจีดีพีของไทยจะขยายตัวขึ้นจากภาวะการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัว แม้ว่าการส่งออกเริ่มชะลอตัวลงเล็กน้อย ซึ่งคาดว่าการท่องเที่ยวน่าจะสามารถหนุนช่วยเศรษฐกิจไทยให้ขึ้นมาได้ที่ระดับ 2.5-3.5% อย่างไรก็ตามภาพรวมตลาดยังคงให้ความสำคัญไปที่เฟดพยายามควบคุมเงินเฟ้อให้ลดลง สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในวันศุกร์ ได้แก่ Chicago PMI ออกมาเพิ่มขึ้นกว่าทึ่คาด สำหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Final Manufacturing PMI คาดว่าจะทรงตัวใกล้เคียงเดิม และ Construction Spending m/m คาดว่าจะปรับลดลงจากเดิม และติดตามตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันที่ 12 มกราคม สำหรับกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวันศุกร์ขายออก 0.87 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 917.64 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงทำ New high โดยเช้านี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปที่ระดับ 1,832 เหรียญ ท่ามกลางการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลดลงจากระดับ 104.46 จุด มาอยู่ที่ระดับ 103.9 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 103.55 จุด ด้านค่าเงินบาทกลับแข็งค่าหลุดระดับ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ลงมา โดยเช้านี้อยู่ที่บริเวณ 34.37 บาทต่อดอลลาร์ ราคาทองคำทางด้านเทคนิคดูจะมี Divergence แต่ RSI ไม่ได้ทำจุดสูงสุดใหม่ตาม จึงแนะนำนักลงทุนควรระวังแรงเทขายทำกำไรในการกลับตัวของราคาทองคำในระยะสั้น โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับสำคัญที่ 1,800 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,850 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,825 เหรียญ และแนวต้าน 1,875 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,805 เหรียญ และแนวต้าน 1,855 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 29,500 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 30,000 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series G23 จะมีแนวรับที่ระดับ 29,850 บาท และแนวต้านที่ระดับ 30,350 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 5 – 25 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำ Open Long เทรดซื้อขายตามกรอบแนวโน้มทิศทางขาขึ้น เน้นเทรดระยะสั้น ลงซื้อขึ้นขาย ตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรเมื่อราคาดีดกลับ
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
รอเปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับเมื่อราคาย่อตัว เน้นเทรดระยะสั้นๆ และควรมีจุด Stop Loss
ข่าวเด่น