ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องประมาณ 23 เหรียญ โดยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯในวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้แก่ Prelim UoM Consumer Sentiment ปรับเพิ่มขึ้นจากเดิม ซึ่งบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ด้านดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยเมื่อวันศุกร์ดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าปิดที่ระดับ 102.20 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 101.87 จุด ในทางกลับกันค่าเงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นหลุดระดับ 33 บาทต่อดอลลาร์ลงมา โดยเช้านี้ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.79 บาทต่อดอลลาร์ กดดันให้ราคาทองไทยทรงตัวใกล้เคียงเดิมที่ระดับ 29,700 บาทต่อบาททองคำ แม้ราคาทองโลกจะปรับขึ้นมาแล้วประมาณ 100 เหรียญในช่วงเวลาประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา สำหรับกองทุนทองคำ SPDR ปัจจุบันถือครองเท่าเดิมที่ 912.14 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่ที่บริเวณ 1,920 เหรียญซึ่งเคยเป็นจุดสูงสุดเดิมในรอบกว่า 8 เดือน โดยราคาทองคำยังมีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบบริเวณ 2,000 เหรียญอยู่ อย่างไรก็ตามภาพรวมของ Indicator ทองคำเริ่มเข้าสู่ภาวะ Overbought ซึ่งแนะนำให้นักลงทุนระวัง อย่างไรก็ตามภาพรวมราคาทองคำยังคงเป็นแนวโน้มทิศทางขาขึ้น สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวโดยมีกรอบแนวรับที่ 1,900 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,930 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,920 เหรียญ และแนวต้าน 1,950 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,905 เหรียญ และแนวต้าน 1,935 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 29,600 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 30,000 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series G23 จะมีแนวรับที่ระดับ 29,800 บาท และแนวต้านที่ระดับ 30,100 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 5 – 20 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำ Open Long เทรดซื้อขายตามกรอบแนวโน้มทิศทางขาขึ้น ลงซื้อขึ้นขาย ตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรเมื่อราคาดีดกลับ
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ใช้กลยุทธ์ Wait & See หรือเปิดสถานะบริเวณแนวต้านเท่านั้น และควรมีจุด Stop Loss หากราคาผ่านเเนวต้านได้
ข่าวเด่น