.png)
จากผลสำรวจ Mastercard-CrescentRating Muslim Gen Z: The Next Generation of Travelers1 ระบุว่า 2 ใน 3 ของนักท่องเที่ยวชาวมุสลิกลุ่ม Gen Z2 ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติกำลังได้รับความนิยมเทียบเท่าการท่องเที่ยวพักผ่อนแบบเดิมๆ อย่างการช้อปปิ้งหรือกิจกรรมบันเทิง โดยพบว่านักท่องเที่ยวรุ่นใหม่กว่า 32% สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ด้วยตนเอง ในขณะที่ 16% ที่ยังคงพึ่งพาเงินจากผู้ปกครอง
รายงานยังระบุว่า นักท่องเที่ยวชาวมุสลิมกลุ่ม Gen Z ต้องการเดินทางท่องเที่ยว โดย 69% วางแผนการท่องเที่ยวอย่างน้อย 2 ครั้งในช่วง 12 เดือนข้างหน้า และ 32% วางแผนใช้เวลาพักผ่อนราว 1-2 สัปดาห์ในจุดหมายปลายทั้งนั้นๆ
ผลสำรวจยังเผยให้เห็นว่า 45% ของผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญและใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยเกือบ 1 ใน 3 ยินดีลดการโดยสารเครื่องบิน ในขณะที่ 11% ยินดีจ่ายค่าชดเชยการปล่อยคาร์บอนและ 14% เลือกไปสถานที่ใกล้บ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการโดยสารเที่ยวบินระยะไกล เมื่อพิจารณาด้านค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว เป็นที่ทราบกันดีกว่านักท่องเที่ยวชาวมุสลิมเป็นผู้ที่ใช้จ่ายอย่างรอบคอบเสมอ จากข้อมูลชี้ว่า 77% ของชาวมุสลิมกลุ่ม Gen Z ยินดีจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนแนวคิดความยั่งยืน เช่น ลดการโดยสารเครื่องบิน เข้าร่วมกิจกรรมอาสา (หรือท่องเที่ยวพร้อมทำกิจกรรมจิตอาสา) และร่วมสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กในท้องถิ่น เมื่อพิจารณาด้านวิธีการชำระเงินในต่างประเทศ พบว่า 73% ของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีแนวโน้มใช้บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตมากกว่า ในขณะที่ 57% ยังนิยมการใช้เงินสด
“ประชากรกลุ่ม Gen Z ถือได้ว่าเป็นเด็กที่เกิดมาในยุคดิจิทัล พวกเขาจึงถูกมองว่าเป็นชาวดิจิทัลที่พร้อมเปิดรับกับเทคโนโลยีต่างๆ ทั้งอินเทอร์เน็ต สังคมออนไลน์ และเครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัยตั้งแต่อายุยังน้อย คนยุคนี้ได้กำหนดนิยามของการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ โดยรายงานฉบับนี้ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่ชัดเจนและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงแก่ผู้ประกอบกิจการท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาจับกลุ่มลูกค้าที่สำคัญนี้ได้” มร.ฟาซาล บาฮาร์ดีน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CrescentRating และ HalalTrip กล่าว
.png)
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังระบุว่าสตรีชาวมุสลิมกลุ่ม Gen Z เป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจที่สำคัญ โดย 70% เป็นผู้วางแผนท่องเที่ยวของครอบครัว และเกือบ 70% ชื่นชอบกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมที่สะท้อนวัฒนธรรมของคนในท้องถิ่นนั้นๆ อย่างแท้จริง เช่น การสัมผัสขนบธรรมเนียมประเพณี มรดกทางวัฒนธรรมและอาหารในท้องถิ่น นอกจากนี้ 63% ยังแสวงหาโอกาสในการเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งคนกลุ่มนี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดย 76% ของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ระบุว่าปัญหาต่าง ๆ ในสังคมถือเป็นปัจจัยสำคัญในการวางแผนท่องเที่ยวของพวกเขา บริการที่สอดคล้องกับศาสนาก็เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ โดยชาวมุสลิมกลุ่ม Gen Z ระบุว่า บริการอาหารฮาลาล ห้องละหมาด และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้อง รวมถึงห้องอาบน้ำละหมาด3 ปัจจัยเหล่านี้เป็น “สิ่งจำเป็น” ที่พวกเขาใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยว
.PNG)
“เราเล็งเห็นว่าผู้บริโภคทั่วโลกมีความต้องการ การเดินทางเพื่อชดเชยโอกาสการท่องเที่ยวที่หายไปในช่วงวิกฤตการณ์ที่ผ่านมา พบว่านักท่องเที่ยวต้องการเดินทางไปในสถานที่ใหม่ ๆเพื่อสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ โดยยังให้ความสำคัญกับการเที่ยวแบบยั่งยืนเป็นอันดับแรก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อการตัดสินใจในการเลือกและการใช้จ่ายของพวกเขาเป็นอย่างมากในปี 2566 มาสเตอร์การ์ดมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับเครสเซนต์เรตติ้งอย่างต่อเนื่อง ในการพัฒนาข้อมูลรายงานการวิจัยที่จะช่วยสร้างความเข้าใจต่อวิถีชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวมุสลิม” มร.ซาฟดาร์ คาน ประธานฝ่ายภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาสเตอร์การ์ด
รายงานฉบับที่ 24 นี้เป็นส่วนหนึ่งของชุดเอกสารรายงานเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวมุสลิม โดยเป็นการร่วมมือกันระหว่างมาสเตอร์การ์ดและเครสเซนต์เรตติ้งมาตลอดระยะเวลา 9 ปี ในการพัฒนาข้อมูลเชิงลึกด้านการท่องเที่ยววิถีมุสลิมที่ช่วยให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสามารถใช้ข้อมูลเพื่อตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจและมีกลยุทธ์ที่เหมาะสมมากขึ้น ในปีที่ผ่านมา ยังได้จัดทำข้อมูล Global Muslim Travel Index ซึ่งเป็นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความพร้อมด้านการท่องเที่ยว เทศกาลรอมฎอน รวมถึงวิถีชีวิตแบบอิดในภูมิภาคอาเซียน
ข่าวเด่น