สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +3.04 จุด แข็งแกร่งกว่าหุ้นตปท., เก็งกำไรงบแบงก์ SET แกว่งอิงแดนบวกในกรอบ 1681-90 แม้ Sentiment หุ้นตปท.เป็นลบ หลังตัวเลขศก.สหรัฐฯ อ่อนแอกว่าคาด และ FED ส่งสัญญาณ Hawkish แต่หุ้นไทยเคลื่อนไหวดีกว่าหุ้นตปท.จากโมเมนตัมศก.ที่ฟื้นตัวดี และแรงเก็งงบแบงก์ Q4 ต่างชาติซื้อสุทธิ 1.71 พันลบ.17 วันติด แต่พลิก Short S50 Futures 5,197 สัญญา ยุติ Long 4 วัน
ทิศทางตลาดวันนี้ : อ่อนตัวลง ตลาดแรงงาน US ยังตึงตัว, งบแบงก์ต่ำกว่าคาด
หุ้นโลกเมื่อวาน (19 ม.ค.) ปรับตัวลง โดยหุ้นยุโรปร่วงมากกว่า 1% ยุติขึ้น 6 วันติด ขณะที่สหรัฐฯ ร่วง 3 วันติด หลังสหรัฐฯ รายงานผลประกอบการน่าผิดหวัง และเจ้าหน้าที่ FED หลายท่านยังคงท่าที Hawkish หลังตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงตึงตัว ล่าสุดจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ ลดลง 15,000 ราย มาอยู่ที่ 190,000 ราย ต่ำสุดนับตั้งแต่ ก.ย. ปีที่แล้ว และดีกว่าตลาดคาดที่ 214,000 ราย ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI รีบาวด์ +85 เซนต์ ปิดเหนือระดับ 80 $/bbl อีกครั้ง คาดการณ์อุปทานน้ำมันโลกจะตึงตัวจากการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย และดีมานด์ดีขึ้นจากจีนเปิดปท. มอง SET มีโอกาสอ่อนตัวลงตามทิศทางหุ้นโลก ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ยังตึงตัว คาดจะหนุน FED ขึ้นดบ.สูงกว่าระดับ 5% และอาจค้างอยู่ในระดับสูงนานตลอดทั้งปีนี้ เพิ่มความเสี่ยงศก.สหรัฐฯ ถดถอย ขณะที่งบแบงก์ที่ออกเมื่อวาน ทั้ง BBL, KBANK และ BAY ต่ำกว่าคาดทั้งหมด อาจสร้างความกังวลต่อเนื่องไปยังหุ้นแบงก์ตัวอื่น ๆ ที่กำลังประกาศผลประกอบการ และแรงเก็งกำไรงบหุ้นตัวอื่น ๆ ด้วย นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้า ตลาดหุ้นภูมิภาคหลายแห่งจะปิดทำการช่วงตรุษจีน น่าจะกดดันให้ตลาดซบเซาด้วย แนวรับ 1679-80, 1670-75 แนวต้าน 1695 (เน้น), 1700++ อนึ่ง คาด VL, ZIGA, ZIGA-W1 เข้าข่ายจะติดมาตรการกำกับการซื้อขายเย็นวันนี้
กลยุทธ์การลงทุน : หาจังหวะเก็บช่วงอ่อนตัว, พอร์ตลงทุน สะสม-ถือทนแกว่ง
เทรดสั้น หลังจากที่ขายล็อกกำไรไปแล้วก่อนหน้านี้ แนะหาจังหวะซื้อคืนช่วงตลาดพักฐาน / พอร์ตลงทุน แนะถือทนแกว่ง หาจังหวะสะสมเพิ่มช่วงอ่อนตัว คงเป้า SET เชิงกลยุทธ์กรณีฐานที่ 1700-1720 และกรณีดีที่ 1750-1780
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick SICT – คาดกำไรสุทธิ 4Q22F ที่ 33 ลบ. เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด +261% YoY และ +98% QoQ จากรายได้ที่เติบโต, ไม่มีการด้อยค่าสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตน YoY และไม่มีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน QoQ, แนวโน้มกำไรปี 2023-24F คาดเติบโตเฉลี่ยปีละ 19% จาก 1) การออกสินค้าใหม่อีก 2-3 รายการ 2) การเริ่มขยายฐานลูกค้าของ ULTX ไปสู่รายอื่นๆ 3) ภาวะชิพขาดแคลนที่คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น และ 4) การขอสิทธิ BOI ใหม่เพื่อทดแทนบัตรปัจจุบันที่จะหมดอายุในช่วง ม.ค.2024, เป้าพื้นฐาน 9.5 บ. / หุ้นคาดงบดี YoY & QoQ – AU, BAM, BBL, BGRIM, CENTEL, MAJOR, PTG, SCB, SICT, SISB, SNNP, TOA / YoY – AP, BDMS, BEM, CK, III, MINT, PYLON / หุ้นปันผลน่าสะสม SETHD Members – AP, THANI, ORI, KKP, TU / TISCO Coverage – TOP, BTSGIF, SCCC, BAM, SPRC, ICHI, TFG / Bloomberg Consensus – BCP, NER, BANPU, SAT, SIS, ASK / Non-Bloomberg Consensus - MBAX, UVAN, LANNA, QLT, MSC, PDJ, RSP, L&E / 10Y US Bond Yield ร่วงต่ำกว่าระดับ 3.5% เป็นผลดีต่อบรรยากาศการลงทุนกลุ่ม FIN, PROP และหุ้นเติบโตสูง - ชอบ AEONTS, BAM, AP, LH, HANA, SICT / หุ้นได้ประโยชน์รัฐออกมาตรการกระตุ้นศก.รวมทั้งจีนเปิดปท. ชอบ CPALL, CRC, COM7, MAKRO, CENTEL, ERW, MINT, BDMS, BTSGIF / หุ้นเชิงรับที่ทนต่อความไม่แน่นอนศก. ADVANC, AOT, BDMS, BEM / Top Picks ช่วง 3 เดือนนี้ : BBL, SCB, CPALL, DTAC, LH, CENTEL, BDMS, CK, SABINA, PLANB
• หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ (Stock Focus) AEONTS, WICE / หุ้นเด่น ม.ค. (Smart Tactics) AP, BBL, CENTEL, EGCO, INTUCH, KKP, MAKRO, PTTEP, TU
ข่าวเด่น