คาด SET การฟื้นตัวยังจำกัดที่แนวต้าน 1690-1695 จุด เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่ นอกจากนี้งบฯ SCC ที่ต่ำกว่าคาด จะเป็นปัจจัยกดดันดัชนี โดยมีกรอบล่างอยู่ที่แนวรับ 1680 และ 1673 จุด หากต่ำกว่า เป็นสัญญาณลบ หรือภาพการอ่อนตัวจะชัดขึ้น ประเด็นสำคัญ ติดตามตัวเลข GDP สหรัฐ ใน Q4/65 หากต่ำคาด จะสร้างความกังวลภาวะศก.ถดถอย
ประเด็นสำคัญ
ตลาดคาด Fed จะปรับขึ้น ด.บ. เพียง 0.25% ในการประชุม 31 ม.ค.-1 ก.พ. หลัง CPI และ PPI สหรัฐบ่งชี้เงินเฟ้อของสหรัฐผ่านจุดสูงสุดแล้ว
จีนยอมเปิดเผยยอดผู้ป่วยโควิดรายใหม่สูงที่สุดกว่า 7 ล้านคนต่อวันในเดือน ธ.ค. 65 - ม.ค. 66 เสียชีวิตสูงสุดต่อวันกว่า 4,000 ราย
สถานการณ์สู้รบรัสเซีย-ยูเครนเริ่มตึงเครียดมากขึ้น โดยสหรัฐเตรียมส่งรถถังสนับสนุนยูเครน ต่อจากเยอรมนีได้ส่งรถถังไปก่อนหน้านี้
กนง.มีมติเอกฉันท์ขึ้น ด.บ. นโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.50% โดยคาดเงินเฟ้อจะกลับสู่กรอบเป้าหมาย 1-3% ปลายปีนี้ ส่วน GDP ปีนี้คาดกลับไปฟื้นตัวเท่าช่วงก่อนโควิดปี 62 และเติบโตต่อเนื่องปี 67 คาดจำนวน นทท. ต่างชาติปี 66 และ 67 ที่ 25.5 และ 34 ล้านคนตามลำดับ
สัปดาห์หน้า ททท. จะประชุมผู้บริหารเพื่อปรับเพิ่มเป้ารายได้ท่องเที่ยวใหม่จากเดิมปี 2566 กำหนดเป้ารายได้ท่องเที่ยวไว้ที่ 2.38 ล้านลบ.
ผู้รับเหมารายใหญ่ 13 ราย เช่น BEM BTS DMT CK ITD STEC NWR RT เข้าซื้อซองประมูลโครงการทางด่วนกระทู้-ป่าตอง ระยะทางรวม 3.98 กม. วงเงิน 1.78 หมื่นลบ. โดย กทพ. กำหนดรับซองเอกสารข้อเสนอ 7 เม.ย. นี้
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET ยังมี Upside จำกัดและยังต้องระวังการปรับฐาน เนื่องจากอยู่ในภาวะ Overbought และ Valuation ค่อนข้างตึงตัว อีกทั้งตลาดยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ และอยู่ระหว่างรอดูผลประกอบการ 4Q65 ของ Real Sector ที่กำลังทยอยประกาศออกมา กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
Weekly Portfolio : ภายใต้ภาวะตลาดที่มี Valuation ตึงตัวและขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ทำให้คาดตลาดหุ้นไทยยังมี Upside จำกัดและยังต้องระวังการปรับฐาน จึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ โดยเน้นรอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ไม่ไล่ราคา ดังนี้
1) หุ้นที่คาดได้รับอานิสงส์เม็ดเงินสะพัดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจากการเข้าใกล้สู่ช่วงการเลือกตั้งของไทย เลือก BEC CENTEL CPN MAJOR MINT
2) หุ้นที่คาดผลประกอบการ 4Q65 เติบโตดี และยังมี Valuation น่าสนใจ เลือก BJC CPALL BCP BDMS BEM GFPT
ช่วงสั้นยังแนะนำเลี่ยงการลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงกดดันผลประกอบการ ดังนี้
1) หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากบาทแข็งค่าและผลประกอบการหุ้นเทคโนโลยีของโลกมีแนวโน้มอ่อนแอต่อใน 4Q65
2) หุ้นขุดเหมือง BTC ซึ่งแม้ช่วงสั้นจะได้รับ sentiment บวกจากการปรับขึ้นของ Bitcoin แต่ยังต่ำกว่าจุดคุ้มทุน เนื่องจากมีต้นทุนไฟฟ้าที่สูง จึงทำให้ผลประกอบการยังมีความเสี่ยงขาดทุน
Daily focus
CPALL 4Q65 คาดกำไรจะปรับตัวดีขึ้น YoY จากธุรกิจ CVS ที่ดีขึ้นตามยอดขายที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งมากขึ้น และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก MAKRO ที่เพิ่มขึ้นจากการผนึกกำลังทางธุรกิจและการรีแบรนด์ร้านค้าของ Lotus’s
MINT 4Q65 คาดกำไรจะปรับตัวดีขึ้น YoY และ QoQ หนุนจากช่วงโลว์ซีซั่นที่แข็งแกร่งในยุโรป การดำเนินงานโรงแรมที่ดีขึ้นในไทยและมัลดีฟส์ และการดําเนินงานร้านอาหารที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นยังปรับตัวตามหลังหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวอื่นๆ
ข่าวเด่น