ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงทรงตัวอยู่ในระดับล่างที่บริเวณ 1,860 เหรียญ หลังจากถูกแรงเทขายทำกำไรส่งผลให้ราคาทองคำหลุดจากระดับ 1,880 เหรียญลงมา และได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของดัชนีดอลลาร์ เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯที่ออกมาดีกว่าตลาดคาดการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากระดับ 101.5 จุดมาอยู่ที่ 103.3 จุด โดยวันศุกร์ดัชนีดอลลาร์เคลื่อนตัวระหว่าง 102.90 - 103.68 จุดขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 103.72 จุด โดยคาดว่าดัชนีดอลลาร์มีแนวต้านสำคัญระยะสั้นอยู่ที่ 104 จุด สำหรับค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าขึ้นมายืนเหนือระดับ 33.50 บาทต่อดอลลาร์ โดยเมื่อวันศุกร์ค่าเงินบาทปิดที่ระดับ 33.65 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 33.76 บาทต่อดอลลาร์ โดยภาพรวมเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลงบ้าง โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษ และยูโรโซน โดยได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมีนาคม ปรับเพิ่มขึ้น 1.66 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 79.72 ดอลลาร์/บาร์เรล ในวันศุกร์ซึ่งเพิ่มความกังวลของตลาดเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่อาจเพิ่มสูงขึ้นได้ รวมทั้งการเปิดประเทศของจีนจะเป็นการเพิ่มความต้องการซื้อน้ำมันดิบในตลาดโลกได้ ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจจีน ได้มีการคาดการณ์จาก Goldman Sachs ว่าในปี 2566 อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ยของจีนในสี่ไตรมาสจะอยู่ที่ 6.5% โดยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เร็วขึ้นของจีนจะกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก ขณะที่เศรษฐกิจไทยคาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) จะขยายตัวได้ 3.7% ในปีนี้ จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามามากขึ้น สำหรับภาพรวมตลาดจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ โดยคาดว่า CPI y/y จะปรับตัวลดลงจากเดิม ขณะที่ CPI m/m คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นจากเดิม ซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดกังวลว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวช้าลง
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงทรงตัวอยู่ในระดับล่าง โดยเคลื่อนตัวอยู่ที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือระดับ 1,850 เหรียญได้ ก็จะมีโอกาสดีดกลับขึ้นมา ขณะเดียวกันหากราคาทองคำหลุดระดับ 1,850 เหรียญมาอยู่ที่ 1,830 เหรียญ จากตัวเลขเงินเฟ้อเป็นหลัก อาจทำให้ภาพของการลงทุนทองคำเป็นทิศทางขาลงในระยะสั้น และระยะกลาง ขณะที่ในระยะยาวยังคงมองว่าราคาทองคำเป็นทิศทางขาขึ้นอยู่ อย่างไรก็ตามในเชิงเทคนิคราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงของการสะสมพลังเพื่อรอความชัดเจนของทิศทาง โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ 1,850 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,885 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,865 เหรียญ และแนวต้าน 1,900 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,860 เหรียญ และแนวต้าน 1,895 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 29,500 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 29,900 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series G23 จะมีแนวรับที่ระดับ 29,850 บาท และแนวต้านที่ระดับ 30,150 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 5 – 15 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำลงทุนในกรอบ Sideways ตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน ลงซื้อขึ้นขายยังเน้นเทรดเก็งกำไรระยะสั้น รอดูความชัดเจนของทิศทาง และระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน เน้นเทรดระยะสั้น ระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ รอเปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับเมื่อราคาย่อตัว เน้นเทรดระยะสั้น
ข่าวเด่น