คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1656-1672 จุด โดยปัจจัยกดดันกังวลเฟดยังคงขึ้นดอกเบี้ยต่อ และแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ทำให้การฟื้นตัวถูกจำกัด อย่างไรก็ตาม การอ่อนตัวยังคงใช้แนวรับ 1656 จุด ซึ่งยังรองรับได้ ใช้เป็นจุดติดตาม เพื่อสร้างฐาน และลุ้นการฟื้นตัวในลำดับถัดไป ประเด็นสำคัญ ติดตามรายงานเงินเฟ้อสหรัฐในวันอังคารนี้
ประเด็นสำคัญ
ราคาทองแดงปรับลดลง 2%DoD เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และความกังวลที่ว่าการชะลอตัวของ ศก. จีนอาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้ทองแดง
ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ก.พ. ของสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 66.4 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 65.1 และสูงกว่า 64.9 ในเดือน ม.ค.
รัสเซียเตรียมปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 5 แสนบาร์เรล/วันในเดือน มี.ค. คิดเป็น 5% ของปริมาณการผลิตทั้งหมด ตอบโต้มาตรการกำหนดเพดานราคาของชาติตะวันตก แต่ไม่ได้ลดกำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว
สหรัฐยิงวัตถุปริศนาบินได้อีกลำหนึ่งตกในวันอาทิตย์ เหนือทะเลสาบฮูรอนพรมแดนสหรัฐฯ-แคนาดา นับเป็นครั้งที่ 4 สร้างความตึงเครียดให้กับความสัมพันธ์สหรัฐฯ และจีน หลังจากสหรัฐเตรียมขึ้นบัญชีดำ 6 องค์กรจีนที่ให้การสนับสนุนกองทัพจีน
พาณิชย์ เร่งส่งออกน้ำมันปาล์มดิบให้มากขึ้นเพื่อพยุงราคาในประเทศ เนื่องจากปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ ม.ค. 66 อยู่ที่ 3.58 แสนตัน สูงกว่าระดับปลอดภัยที่ 3 แสนตัน มาตั้งแต่ ก.ย. 65
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะยังแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1650-1680 จุด ระหว่างรอปัจจัยใหม่และดูผลประกอบการ 4Q65 ของ real sector ที่กำลังจะทยอยออกมา กลยุทธ์การลงทุนจึงยังคงแนะนำ “Selective Buy”
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : มอง SET ยังรอดูปัจจัยใหม่และการประกาศผลประกอบการ 4Q65 ของหุ้นกลุ่ม real sector จึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดยเน้นรอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ไม่ไล่ราคา ดังนี้
1) หุ้นที่มองไม่ต้องระวังแรงขายจากต่างชาติ (ปี 65 ต่างชาติขายสุทธิหรือซื้อสุทธิน้อย) ขณะที่ปี 66 (YTD) ต่างชาติเริ่มพลิกซื้อสุทธิหรือซื้อต่อเนื่อง เลือก SCC AMATA ERW
2) หุ้นที่ราคายัง Laggard โดยมี PBV ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตและปี 2566 คาดกำไรเติบโตดี YoY อีกทั้ง Valuation ยังน่าสนใจ เลือก CPF GPSC SCGP HMPRO
3) สำหรับนักลงทุนที่ชอบหุ้นปันผล แนะนำหุ้นที่คาดหลังรายงานงบปี 2565 จะประกาศจ่ายปันผล โดยให้ Div. Yield ปี 65F (หักที่จ่ายระหว่างกาลไปแล้ว) สูงเกิน 4% และคาดขึ้น XD แล้ว ราคาหุ้นจะยังปรับขึ้นต่อได้จากผลการดำเนินงานที่เติบโตดีในปี 66 เลือก TISCO SAT KTB
ขณะที่ช่วงสั้นหุ้นที่แนะนำให้เพิ่มความระมัดระวังการลงทุน เนื่องจากคาดจะเผชิญแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ ได้แก่ KBANK BANPU PTTEP EA BH
Daily focus
AOT 1QFY66 พลิกกลับมามีกำไรครั้งแรกและดีกว่าตลาดคาด หลังจากขาดทุนติดต่อกัน 10 ไตรมาส จากค่าใช้จ่ายลดลงและรายได้แข็งแกร่ง ขณะที่ 2QFY66 คาดกำไรปกติจะยังเติบโตสดใส YoY และ QoQ ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทย
TOP ช่วงสั้นคาดการเปิดประเทศของจีนจะเป็นปัจจัยหนุน GRM โดยเฉพาะน้ำมันอากาศยานและน้ำมันเบนซิน ส่วนผลิตภัณฑ์ middle distillate คาดจะได้แรงหนุนจากผลกระทบที่ไม่แน่นอนของมาตรการ EU ในการสั่งห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันของรัสเซียตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. 66
ข่าวเด่น