คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1656-1672 จุด โดยนักลงทุนในตลาด รอดูรายงานเงินเฟ้อสหรัฐประจำเดือนม.ค. ในคืนนี้ ซึ่งเฟดใช้เป็นตัวแปรสำคัญ สำหรับการกำหนดทิศทางของอัตราดอกเบี้ย ด้านภาพรวม การอ่อนตัวยังคงใช้แนวรับ 1650-1656 จุด ใช้เป็นจุดติดตาม หากไม่ต่ำกว่า ยังลุ้นการฟื้นตัวในลำดับถัดไปได้อยู่
ประเด็นสำคัญ
NATO เตรียมจัดประชุมในวันนี้เพื่อหารือว่าจะจัดส่งเครื่องบินรบให้ยูเครนตามข้อเรียกร้องหรือไม่ ทางด้านสถานทูตสหรัฐประจำรัสเซียประกาศเตือนขาวอเมริกันออกจากรัสเซียและเลี่ยงการเดินทางไปช่วงนี้
วันนี้ติดตามตัวเลข CPI ทั่วไปของสหรัฐเดือน ม.ค. คาด +6.2%YoY จากเดือน ธ.ค. +6.5%YoY รวมทั้งตัวเลข PPI เดือน ม.ค. ในวัน พฤ. นี้
วันนี้จับตา ครม. พิจารณาร่างกฎหมาย พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และการยืดเวลาลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ส่วนพาณิชย์เตรียมเสนอ FTA ไทย - EU
ปลัดกระทรวงพลังงานระบุแนวโน้มค่าไฟฟ้างวดใหม่ในเดือน พ.ค.-ส.ค.66 นี้ มีโอกาสเฉลี่ยต่ำกว่าหน่วยละ 5 บาทได้แน่นอน เนื่องจากขณะนี้ราคาก๊าซธรรมชาติเหลวปรับตัวลดลง
ธ.พ.หลายแห่งเริ่มแข่งขันกันให้ ด.บ.เงินฝากพิเศษสูงขึ้นเพื่อระดมเงินฝากรองรับการปล่อยสินเชื่อในอนาคต จากอุปสงค์สินเชื่อสูงขึ้นตาม ศก.ที่ฟื้นตัว การท่องเที่ยวที่กลับมาเพิ่มขึ้น
ททท. คงเป้ารายได้รวมท่องเที่ยวปี 66 ที่ 2.38 ล้านลบ. นทท.ต่างชาติเข้าไทย 30 ล้านคน ไทยเที่ยวไทย 135 ล้านคน-ครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะยังแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1650-1680 จุด ระหว่างรอปัจจัยใหม่และดูผลประกอบการ 4Q65 ของ real sector ที่กำลังจะทยอยออกมา กลยุทธ์การลงทุนจึงยังคงแนะนำ “Selective Buy”
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : มอง SET ยังรอดูปัจจัยใหม่และการประกาศผลประกอบการ 4Q65 ของหุ้นกลุ่ม real sector จึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดยเน้นรอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ไม่ไล่ราคา ดังนี้
1) หุ้นที่มองไม่ต้องระวังแรงขายจากต่างชาติ (ปี 65 ต่างชาติขายสุทธิหรือซื้อสุทธิน้อย) ขณะที่ปี 66 (YTD) ต่างชาติเริ่มพลิกซื้อสุทธิหรือซื้อต่อเนื่อง เลือก SCC AMATA ERW
2) หุ้นที่ราคายัง Laggard โดยมี PBV ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตและปี 2566 คาดกำไรเติบโตดี YoY อีกทั้ง Valuation ยังน่าสนใจ เลือก CPF GPSC SCGP HMPRO
3) สำหรับนักลงทุนที่ชอบหุ้นปันผล แนะนำหุ้นที่คาดหลังรายงานงบปี 2565 จะประกาศจ่ายปันผล โดยให้ Div. Yield ปี 65F (หักที่จ่ายระหว่างกาลไปแล้ว) สูงเกิน 4% และคาดขึ้น XD แล้ว ราคาหุ้นจะยังปรับขึ้นต่อได้จากผลการดำเนินงานที่เติบโตดีในปี 66 เลือก TISCO SAT SCCC
ขณะที่ช่วงสั้นหุ้นที่แนะนำให้เพิ่มความระมัดระวังการลงทุน เนื่องจากคาดจะเผชิญแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ ได้แก่ KBANK BANPU PTTEP EA BH
Daily focus
CRC 4Q65 คาดผลประกอบการเพิ่มขึ้น YoY แรงหนุนจากยอดขายปลีก (ยอดขายสาขาเดิมคาดจะเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับสูง YoY โดยเพิ่มขึ้นทุกประเทศทั้งไทย เวียดนาม และอิตาลี) รายได้จากการให้เช่าที่ฟื้นตัว และมาร์จิ้นที่กว้างขึ้น
SPRC 4Q65 คาดผลประกอบการจะฟื้นตัว QoQ แรงหนุนจาก crack spread ที่ดีขึ้นของน้ำมันเบนซินและน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน รวมถึงผลกระทบที่ลดลงจากขาดทุนสินค้าคงเหลือ
ข่าวเด่น