คริปโตเคอเรนซี่
Special Report : ขึ้นปี 2023 แล้ว "คริปโต" จะกลับมาหรือยัง?


เรียกได้ว่าในช่วงปีที่แล้วตลาดคริปโต รวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆต่างล้มพับกันเป็นแถว Bitcoin มูลค่าลดลงกว่า 75%  มีโปรเจคเหรียญที่ล้มหายไปอย่างเหรียญ Luna ของ Terra Blockchain เคสตัวอย่างที่สร้างความหวาดกลัวให้กับนักลงทุนและคนด้านนอกที่มองเข้ามา อีกทั้งการล้มละลายของแพลตฟอร์ม FTX กระดานเทรดเหรียญคริปโตที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากบริษัทด้านการเทรดชั้นนำหลายแห่ง ซึ่งดูน่าเชื่อถือและอนาคตไกล กลับกลายเป็นข่าวช็อควงการจนกระทบกับทั้งโลกคริปโตเป็นโดมิโน่ บริษัท Genesis ผู้ให้บริการสินเชื่อด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ก็ล้มละลายหมดท่าไปอีกรายเช่นกัน สินทรัพย์อย่าง NFT ติดลบกว่า 90% หลายๆโปรเจคต่างขายไม่ออก จนคนใน Community ต่างหายออกไปกันหมด 


ทั้งตลาดตกอยู่ในสภาวะความกลัวอย่างถึงที่สุด ตรงข้ามกับปี 2021 ที่เป็นยุคทองของโลกคริปโต สายตาทั้งโลกต่างมองว่าตอนนั้นคือยุคของ Bitcoin และ Ethereum ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว DeFi ดีกว่าธนาคารดั้งเดิมกว่าเป็นไหนๆ หรือ Metaverse ที่เปิดตัวมาอย่างยิ่งใหญ่ ถ้าไม่รีบซื้อที่ดินในโปรเจค หรือลงทุนใน NFT ไว้ก่อนต้องไม่ทันแล้วแน่ๆ คนหลั่งไหลเข้ามาในโลกดังกล่าวมากมาย กระโจนซื้อเหรียญคริปโต และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆกันเสียยกใหญ่ Transaction ทางธุรกรรมเกิดขึ้นเป็นวินาทีต่อวินาที ดูยังไงๆแล้วคริปโตก็ไม่มีวันล้มแน่นอน

เหตุการณ์ของปีที่แล้วสามารถเรียกเป็นคำศัพท์เฉพาะของโลกลงทุนว่า “Bear Market” หรือสภาวะตลาดหมี เป็นช่วงที่นักลงทุนมองตลาดในแง่ลบ ซึ่งมีมุมมองว่าสินทรัพย์จะมีมูลค่าลดลงอย่างต่อเนื่อง อุปสงค์จึงมีน้อยกว่าอุปทาน เพราะคนต่างขายทิ้งเพื่อหยุดความเสี่ยงของพอร์ตตัวเอง ราคาของคริปโตในช่วงนั้นจึงเทกระจาดลงไปไม่เหลือชิ้นดี บางคนที่ออกไม่ทันจึงมีอาการที่เรียกว่า “ติดดอย” นั้นเอง

มาถึงปี 2023 หลายๆคนคงสงสัยว่าปีนี้คริปโตจะกลับมาไหม รถจะวนกลับขึ้นมารับคนที่ติดอยู่บนดอยแล้วหรือยัง เพราะเรื่องเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นหนักๆในช่วงก่อนจากผลกระทบของสภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครนก็ดูท่าจะซาลงแล้ว ประกอบกับการผ่อนคลายมาตรการโควิดในหลายๆประเทศ เช่น จีน สหรัฐ รวมถึงประเทศไทยที่มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวจนปีนี้เป็นดาวเด่นที่ภาคการบริการจะเข้ามาช่วยในการพยุงเศรษฐกิจ ดูเหมือนว่าเงินเริ่มหมุนเวียนกลับเข้ามาในระบบ  ภาคธุรกิจกลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้งหนึ่ง ฉะนั้นเงินทุนก็อาจมีแนวโน้มที่จะไหลกลับเข้ามายังในตลาดคริปโต

 
ราคา Bitcoin/BUSD 1D Timeframe จาก Binance

ข้อมูลราคา Bitcoin จากกระดานเทรด Binance จะเห็นได้ว่าราคาของ Bitcoin วันที่ 31 ธ.ค. 2022 มีระดับราคาอยู่ที่ 16,534 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ล่าสุดในปีนี้ราคาของเหรียญมีมูลค่าสูงขึ้น โดยล่าสุดมีมูลค่าอยู่ที่ 24,633 ดอลลาร์สหรัฐ นับว่าสูงกว่าช่วงครึ่งปีหลังที่แล้ว รวมถึงเหรียญคริปโตสกุลอื่นๆก็มีมูลค่าสูงขึ้นเช่นกันตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา เหตุการณ์ในตลาดนี้ทำให้หลายคนเริ่มมีกำลังใจว่าคริปโตอาจกลับมาแล้วหรือไม่ ตลาดหมีอาจกำลังจะสิ้นสุดลง เพราะถ้าเทียบกับวงจรวัฏจักร หรือ Circle ของ Bitcoin เราจะพบว่า ในปลายปี 2017 Bitcoin ทำจุดสูงสุดที่เป็น All Time High อยู่ที่ 19,720 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนที่จะติดลบลงไปกว่า 80% ทำจุดต่ำสุดอยู่ราว 3,158 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงปลายปี 2018 แล้วค่อยๆเริ่มปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง 
 
 
 
ราคา Bitcoin/BUSD 1M Timeframe จาก Binance

ซึ่งจากสถิติแล้ว Circle ในการทำจุดต่ำสุดก่อนปรับตัวขึ้นจะอยู่ที่ราวๆ 1 ปี หากอิงกับหลายๆสินทรัพย์ มาในช่วงล่าสุด ที่ Bitcoin ได้เคยทำจุดสูงสุดราว 69,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนพฤศจิกายนปี 2021 ส่วนปี 2022 ในเดือนเดียวกันก็ลงมาทำจุดต่ำสุดของ Circle กว่า 75% อยู่ที่ 15,462 ดอลลาร์สหรัฐ แล้วปี 2023 จะเป็นตามเหตุการณ์เหมือนปี 2019 หรือไม่ (2017 สูงสุด 2018 ต่ำสุด 2019 ปรับตัวขึ้น - 2021 สูงสุด 2022 ต่ำสุด 2023 จะปรับตัวขึ้น?)

แต่ความจริงก็คือสถิติดังกล่าวไม่สามารถทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับปีนี้ได้อย่าง 100% เพราะต้องบอกตามตรงว่าบริบทสภาพแวดล้อมไม่ค่อยสู้ดีเสียเท่าไหร่ ในปี 2017-2018 ไม่ได้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ตั้งแต่เรื่องของไวรัสโควิด-19 มาจนถึงสภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้เฟดต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่สูงที่สุดในรอบ 15 ปี กระทบกับตลาดลงทุนโดยรวม แม้ปี 2023 เงินเฟ้อทั่วโลกจะซาลงแล้วก็ตาม แต่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังมีอยู่ต่อไป ฉะนั้นเงินทุนที่จะเข้ามายังตลาดคริปโตก็ยังอาจจะโดนกดดันอยู่กับปัจจัยทางเศรษฐกิจ ยิ่งเรื่องของสภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือ Recession ที่มีโอกาสเกิดขึ้นในหลายๆประเทศ ทำให้ราคาของเหรียญคริปโตอาจไม่เป็นไปตามบริบทของทางสถิติที่เคยเกิดขึ้น

สรุปแล้วปีนี้ก็ยังไม่สามารถการันตีได้อย่างแน่นอนว่า Circle หรือรอบของตลาดหมีนั้นจะหมดไปแล้ว หรือจะอยู่อีกกี่ปี (หลายสำนักมีการคาดเดาว่า 2-3 ปี ไปจนถึง 4 ปี) ฉะนั้นสัญญาณการฟื้นตัวที่เห็นเหรียญ Bitcoin เริ่มกลับมาบวกเกือบ 40% ก็ยังไม่เรียกว่าเป็นการฟื้นคืนอย่างเต็มตัวเหมือนกับ 2 ปีก่อน ตลาดยังอยู่ในสภาวะเป็นกังวลที่ต้องคอยจับตาดูสภาพเศรษฐกิจและปัจจัยรอบๆต่อไป
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 ก.พ. 2566 เวลา : 19:30:50
05-12-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 5, 2024, 9:41 am