ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลดลงกว่า 2 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล เนื่องจากตลาดกังวลอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะกดดันต่อความต้องการใช้น้ำมัน โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีแนวโน้มปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดและจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับสูงต่อเนื่องเพื่อชะลออัตราเงินเฟ้อลง ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์
อุปทานในตลาดยังคงอยู่ในระดับสูง หลังรัสเซียคงปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบอยู่ในเดือน มี.ค. 66 ในระดับเดิม แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการประกาศลดการผลิตลง 500,000 บาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่ มิ.ย. 64
ปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติของสหรัฐฯ ปรับลดลงเป็นครั้งที่สองในรอบสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามราคาพลังงานที่ลดลง โดย Baker Hughes รายงานปริมาณการขุดเจาะ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 ก.พ. ปรับลดลง 1 แท่นมาอยู่ระดับ 760 แท่น
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังถูกกดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ท่ามกลางแรงซื้อจากอินโดนีเซียที่ชะลอตัวลง โดยคาดจะมีการนำเข้าก่อนเทศกาลรอมฎอนที่ราว 10-11 ล้านบาร์เรล ลดลงจากปกติที่ราว 12-14 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ตามตลาดดีเซลในยุโรปที่ปรับลดลงเนื่องจากสต๊อกอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ในเวียดนามที่ชะลอลงและปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์
ข่าวเด่น