SET ยังได้รับปัจจัยกดดันจากความกังวลเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ หนุนดอลลาร์แข็ง และเงินบาทอ่อนค่า กดดันต่อทิศทาง fund flow รวมถึง GDP ไทย ใน Q4/65 ที่ต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตาม ด้านแนวโน้มราคา ยังดูยืนแนวรับบริเวณ 1645 จุดได้ ดังนั้น ให้ใช้เป็นจุดติดตาม หากไม่ต่ำกว่า คาดว่าดัชนียังมีโอกาสฟื้นตัวได้ แนวต้านอยู่ที่ 1660-1666 จุด
ประเด็นสำคัญ
Goldman Sachs ออกรายงานคาดการณ์ว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 3 ครั้งในปีนี้ สู่ระดับสูงสุดที่ 5.25-5.50%
รมว. ตปท. สหรัฐ เตือนจีนถึงผลกระทบร้ายแรงต่อความสัมพันธ์กับสหรัฐที่จะเกิดขึ้น หากจีนให้การสนับสนุนด้านอาวุธกับรัสเซีย
เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 3 ลูกตกสู่ทะเลญี่ปุ่นเช้าวันนี้ โดยขู่จะยิงเพิ่มอีกหากถูกสหรัฐคุกคาม
สภาพัฒน์รายงาน GDP 4Q65 +1.4%YoY ต่ำกว่าคาด +3.5%YoY ส่งผลให้ GDP ปี 2565 +2.6% ต่ำกว่าคาด 3.2% นอกจากนี้ปรับลดประมาณการ GDP ปี 2566 เหลือโต 3.2% จากเดิมที่ 3.5% หลังประเมินการส่งออกติดลบ 1.6% แต่คาดท่องเที่ยวช่วยประคอง
AOT คาดนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยเกิน 1 ล้านคน ภายในเดือน ส.ค. นี้ และคาดว่าช่วง พ.ย. – ธ.ค. 66 ผู้โดยสารสุวรรณภูมิ จะอยู่ที่ราว 60 ล้านคน/ปี เท่าช่วงก่อนโควิดระบาดปี 2562
กลุ่มธุรกิจ TCP ประกาศปรับราคาเครื่องดื่มกระทิงแดงคลาสสิกจาก 10 เป็น 12 บาท เริ่ม 1 มี.ค.66 จากต้นทุนการผลิตที่ปรับสูงขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET ยังอยู่ในช่วงของการปรับฐาน หลัง Valuation ตึงตัว และอยู่ระหว่างรอปัจจัยหนุนใหม่ ขณะที่การประกาศผลประกอบการ 4Q65 ของ real sector กำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายซึ่งส่วนใหญ่คาดยังมีแนวโน้มไม่สดใสนัก กลยุทธ์การลงทุนจึงยังคงแนะนำ “Selective Buy”
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : มอง SET ยังอยู่ในช่วงปรับฐาน และรอดูโค้งสุดท้ายของการประกาศผลประกอบการ 4Q65 ของหุ้นกลุ่ม real sector จึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดยเน้นรอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ไม่ไล่ราคา ดังนี้
1) หุ้นที่คาดผลประกอบการ 4Q65 จะออกมายังเติบโตดี YoY ในช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศงบ เลือก BDMS ZEN BJC LH
2) หุ้นที่คาดไม่ต้องระวังแรงขายจากต่างชาติ เนื่องจากปี 65 ต่างชาติขายสุทธิหรือซื้อสุทธิน้อย ขณะที่ปี 66 (YTD) ต่างชาติเริ่มพลิกซื้อสุทธิหรือซื้อต่อเนื่อง เลือก SCC AMATA ERW
ขณะที่ช่วงสั้นหุ้นที่แนะนำให้เพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับหุ้นที่คาดเผชิญแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ ได้แก่ AOT KBANK PTTEP BANPU EA BH TIDLOR รวมทั้งแนะนำให้ลดน้ำหนักลงทุนหุ้น/ขายทำกำไรออกไปก่อนใน 19 บริษัท (Special Report ที่ออกไปเมื่อวันที่ 16 ก.พ.) ที่ราคาปรับขึ้นมาแรงกว่า SET และมองว่าสะท้อนพื้นฐานไปมากแล้วจนราคาหุ้นไม่มี หรือ เหลือ Upside จำกัด อีกทั้งนักวิเคราะห์พื้นฐานยังมองว่า ช่วงสั้นขาดปัจจัยหนุนและมีประเด็นเสี่ยงที่ต้องจับตา
Daily focus
BJC 4Q65 คาดกำไรจะทำจุดสูงสุดของปี 2565 จากยอดขายและรายได้ค่าเช่าและอื่นๆ ที่ดีขึ้น ขณะที่ 1Q66 มองแนวโน้มกำไรยังเติบโต YoY จากยอดขายและรายได้ค่าเช่าที่ดีขึ้น
BDMS มองราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง แรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยกำไรมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นใน 4Q65-ปี 2566 และคาดจำนวนผู้ป่วยจากจีนจะเพิ่มขึ้นหลังจากเปิดประเทศ
ข่าวเด่น