SET ได้รับปัจจัยกดดันต่างๆ ได้แก่ 1) กังวลเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ 2) ทิศทาง fund flow ไหลออก และ 3) งบฯ บริษัทฯ ใน Q4/65 ส่วนใหญ่ต่ำกว่าคาด ทำให้การฟื้นตัวยังถูกจำกัด โดยมีแนวต้านที่ 1660 และ 1666 จุด ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม แนวรับบริเวณ 1645 จุด ยังรองรับได้ ดังนั้น หากไม่ต่ำกว่า คาดว่าดัชนียังอยู่ในทางฟื้นตัวได้อยู่
ประเด็นสำคัญ
ปธน.ไบเดน เดินทางเยือนกรุงเคียฟของยูเครน พร้อมประกาศให้ความช่วยเหลือทางทหารวงเงิน 500 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ ปธน. ปูตินของรัสเซียมีกำหนดแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาฯ ในวันนี้
บ.ข้ามชาติหลายแห่งในสหรัฐและยุโรปมีความระมัดระวังมากขึ้นกับการลงทุนในจีน จากความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ทวีความรุนแรงขึ้น
สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติระบุราคาสุกรมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง จากปัญหาหมูลักลอบนำเข้าจาก ตปท. เป็น Sentiment ลบต่อ CPF GFPT
คมนาคมเตรียมเสนอ ครม. พิจารณาโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง วงเงินกว่า 2.1 หมื่นลบ. ก่อนหมดวาระ
ธปท. ระบุอาจไม่ต่ออายุมาตรการแก้หนี้ระยะยาวที่จะหมดในสิ้นปีนี้ โดยเตรียมจะปรับการดำเนินนโยบายการเงินเข้าสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้ยังจับตาหนี้เสียสินเชื่อซื้อรถ-บัตรเครดิต ยังสูงเกือบ 5 แสนลบ. จากค่าครองชีพสูง-ด.บ. ขาขึ้น
ส.อ.ท. คาดส่งออกไทยปีนี้ยังเปราะบางตามทิศทาง ศก. โลกจากความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจรุนแรงขึ้น ขีดความสามารถการแข่งขันที่ลดลงจากต้นทุนค่าไฟฟ้าที่เพิ่ม และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET ยังอยู่ในช่วงของการปรับฐาน หลัง Valuation ตึงตัว และอยู่ระหว่างรอปัจจัยหนุนใหม่ ขณะที่การประกาศผลประกอบการ 4Q65 ของ real sector กำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายซึ่งส่วนใหญ่คาดยังมีแนวโน้มไม่สดใสนัก กลยุทธ์การลงทุนจึงยังคงแนะนำ “Selective Buy”
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : มอง SET ยังอยู่ในช่วงปรับฐาน และรอดูโค้งสุดท้ายของการประกาศผลประกอบการ 4Q65 ของหุ้นกลุ่ม real sector จึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดยเน้นรอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ไม่ไล่ราคา ดังนี้
1) หุ้นที่คาดผลประกอบการ 4Q65 จะออกมายังเติบโตดี YoY ในช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศงบ เลือก BDMS ZEN BJC LH
2) หุ้นที่คาดไม่ต้องระวังแรงขายจากต่างชาติ เนื่องจากปี 65 ต่างชาติขายสุทธิหรือซื้อสุทธิน้อย ขณะที่ปี 66 (YTD) ต่างชาติเริ่มพลิกซื้อสุทธิหรือซื้อต่อเนื่อง เลือก SCC AMATA ERW
ขณะที่ช่วงสั้นหุ้นที่แนะนำให้เพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับหุ้นที่คาดเผชิญแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ ได้แก่ AOT KBANK PTTEP BANPU EA BH TIDLOR รวมทั้งแนะนำให้ลดน้ำหนักลงทุนหุ้น/ขายทำกำไรออกไปก่อนใน 19 บริษัท (Special Report ที่ออกไปเมื่อวันที่ 16 ก.พ.) ที่ราคาปรับขึ้นมาแรงกว่า SET และมองว่าสะท้อนพื้นฐานไปมากแล้วจนราคาหุ้นไม่มี หรือเหลือ Upside จำกัด อีกทั้งนักวิเคราะห์พื้นฐานยังมองว่าช่วงสั้นขาดปัจจัยหนุนและมีประเด็นเสี่ยงที่ต้องจับตา
Daily focus
BCP กำไรสุทธิ 4Q65 อยู่ที่ 473 ลบ. ลดลง 73% YoY และ 81% QoQ ต่ำกว่าคาด เพราะขาดทุนสต๊อกและ SG&A สูงกว่าคาด แต่ปี 2566 คาดกำไรสุทธิจะดีขึ้น จากขาดทุนสินค้าคงเหลือและสัญญาประกันความเสี่ยงจะลดลง
MAKRO กำไรปกติ 4Q65 ออกมาตามคาดที่ 2.7 พันลบ. +5% YoY และ +68% QoQ ขณะที่ 1Q66 คาดจะเติบโตต่อ YoY เพราะยอดขายจากการค้าปลีกและรายได้ค่าเช่าจะปรับตัวดีขึ้น
ข่าวเด่น