PYLON ผลประกอบการปี 65 สดใส มีรายได้จากการให้บริการ 1,146.76 ล้านบาท โต 45.92% และกำไรสุทธิอยู่ที่ 119.79 ล้านบาท เติบโตกว่า 201% จากปีก่อน บอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.15 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผล วันที่ 22 พ.ค. 66 นี้ “ดร.ชเนศวร์ แสงอารยะกุล” แม่ทัพใหญ่ ชี้ภาพรวมอุตสาหกรรมงานก่อสร้างฐานรากปี 2566 ฟื้นตัว ทั้งงานภาครัฐและภาคเอกชนตุนแบ็กล็อกปัจจุบันที่ 1,500 ล้านบาท รับรู้รายได้ส่วนใหญ่ในปีนี้ทั้งหมด
ดร.ชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานราก (เสาเข็มเจาะ) เปิดเผยว่าผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวดปี 2565 มีกำไรสุทธิ 119.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80.03 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 201.28 จากปีก่อนมีรายได้จากการให้บริการ 1,146.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 360.89 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 45.92 จากปีก่อน
“ปี 2565 ถือว่าเราผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว โดยเชื่อว่าสถานการณ์จากนี้น่าจะปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ และประเมินแนวโน้มธุรกิจปี 2566 น่าจะดีขึ้น โดยบริษัทยังมีงานประมูลโครงการใหม่เข้ามาเสริมพอร์ตอย่างต่อเนื่อง” ดร.ชเนศวร์ กล่าว
ทั้งนี้ เพื่อสะท้อนถึงความเชื่อมั่นและตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นงินสด ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญจำนวน 749,873,396 หุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 20 มีนาคม 2566 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 โดยบริษัทฯ จะจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น วันที่ 25 เมษายน 2566 เพื่อพิจารณามติดังกล่าว
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมในปี 2566 คาดกลับมาฟื้นตัวและเติบโตได้ดีกว่าปี 2564-2565 โดยบรรยากาศการลงทุนของผู้ประกอบการภาคเอกชนเริ่มคึกคักมากขึ้น ทั้งโครงการมิกซ์ยูส และคอนโดมิเนียมแนวสูง ซึ่งเป็นผลบวกต่อธุรกิจของ PYLON ทั้งนี้ประมาณการอัตราการใช้เครื่องจักรจะกลับมาอยู่ที่ 18-20 ชุด/เดือน ตั้งแต่ช่วงต้นปี นอกจากนี้โดยบริษัทยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่ๆ เสริมแกร่ง Backlog อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับ 1,500 ล้านบาท
ในปี 2566 บริษัทยังรับงานโครงการใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่องใน คาดว่าจะมีปริมาณงานเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ทั้งงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่คาดว่าจะเริ่มมีความชัดเจนในปีนี้
.jpg)
ข่าวเด่น