เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ 1,810 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,840 เหรียญ โดยเป็นลักษณะของการค่อยๆ ปรับฐาน


ทิศทางราคาทองคำ

 
ราคาทองคำดีดตัวสูงขึ้น หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้แก่ Goods Trade Balance, Richmond Manufacturing Index และ CB Consumer Confidence ออกมาลดลงกว่าที่คาดการณ์ กดดันให้ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยเมื่อวานนี้ดัชนีดอลลาร์เปิดตลาดที่ 104.63 จุด และเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ 105 - 104.42 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 104.93 จุด ซึ่งส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น โดยราคาทองคำเมื่อวานนี้ลงไปทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,805 เหรียญ ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาในช่วงตลาด Comex และทำจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,831 เหรียญ ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 1,829 เหรียญ ซึ่งจะเห็นการดีดตัวกลับของราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญ ด้านค่าเงินบาทหลังจากประกาศตัวเลขบัญชีดุลการค้าของไทยซึ่งออกมาอยู่ที่ -2.70B ลดลงจากคาดการณ์ที่ -1.40B ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อคืนนี้ทำจุดสูงสุดที่ 35.39 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 35.08 บาทต่อดอลลาร์ สำหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ISM Manufacturing PMI คาดการณ์ออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม ด้านภาพรวมจะเห็นได้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ออกมาบ่งชี้ถึงการหดตัวของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งชัดเจนว่าได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเฟด รวมทั้งภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยตลาดส่วนใหญ่คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค. ขณะที่ตลาดมองว่าอีซีบีจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 16 มี.ค. สำหรับกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ขายออก 2.31 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 915.3 ตัน

 
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
 
ภาพรวมราคาทองคำโลกมีแนวโน้มที่จะเป็นลักษณะของ Bottom Out ได้ ซึ่งการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำเมื่อวานนี้มีนัยสำคัญทางเทคนิคจากการที่ราคาทองคำฟอร์มตัวในรูปแบบ Double Bottom ลงไปที่แนวรับบริเวณ 1,805 เหรียญ ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาได้เป็นวันที่ 3 โดยมีการปรับตัวขึ้นอย่างช้าๆ ขณะเดียวกันราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาทดสอบที่บริเวณ Fibonacci 61.8% ที่ระดับ 1,829 เหรียญ หลังจากที่ราคาทองคำหลุดลงไปประมาณ 70% ในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นการดีดกลับอย่างมีนัยสำคัญในระยะสั้น โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ 1,810 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,840 เหรียญ โดยเป็นลักษณะของการค่อยๆ ปรับฐาน

ภาพรวมราคาทองไทยในเชิงเทคนิคเริ่มปรับขึ้นทะลุ Double Top ขึ้นมา เป็นรูปแบบการปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากที่เคลื่อนตัวในลักษณะ Sideways ระหว่างบริเวณ 29,700 - 30,000 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งราคาทองไทยสามารถยืนเหนือ 30,000 บาทต่อบาททองคำได้ ทำให้ภาพรวมทิศทางทองไทยเป็นทิศทางขาขึ้น

สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,820 เหรียญ และแนวต้าน 1,850 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,815 เหรียญ และแนวต้าน 1,845 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 30,100 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 30,500 บาท/บาททองคำ

Gold Futures Series J23 จะมีแนวรับที่ระดับ 30,550 บาท และแนวต้านที่ระดับ 30,850 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 5 - 10 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
 
 

 
 
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
 
แนะนำลงทุนในกรอบ Sideways Up เน้นเทรดระยะสั้นตามกรอบแนวโน้มทิศทางขาขึ้น ลงซื้อขึ้นขาย ระวังความผันผวนของราคา

- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน เน้นเทรดระยะสั้น ระวังความผันผวนของราคา

- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้านและปิดทำกำไรตามแนวรับ เน้นเทรดระยะสั้น ระวังความผันผวนของราคา
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 01 มี.ค. 2566 เวลา : 13:06:27
29-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 29, 2024, 9:28 pm