ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำดีดตัวสูงขึ้น หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้แก่ Goods Trade Balance, Richmond Manufacturing Index และ CB Consumer Confidence ออกมาลดลงกว่าที่คาดการณ์ กดดันให้ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยเมื่อวานนี้ดัชนีดอลลาร์เปิดตลาดที่ 104.63 จุด และเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ 105 - 104.42 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 104.93 จุด ซึ่งส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น โดยราคาทองคำเมื่อวานนี้ลงไปทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,805 เหรียญ ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาในช่วงตลาด Comex และทำจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,831 เหรียญ ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 1,829 เหรียญ ซึ่งจะเห็นการดีดตัวกลับของราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญ ด้านค่าเงินบาทหลังจากประกาศตัวเลขบัญชีดุลการค้าของไทยซึ่งออกมาอยู่ที่ -2.70B ลดลงจากคาดการณ์ที่ -1.40B ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อคืนนี้ทำจุดสูงสุดที่ 35.39 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 35.08 บาทต่อดอลลาร์ สำหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ISM Manufacturing PMI คาดการณ์ออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม ด้านภาพรวมจะเห็นได้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ออกมาบ่งชี้ถึงการหดตัวของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งชัดเจนว่าได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเฟด รวมทั้งภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยตลาดส่วนใหญ่คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค. ขณะที่ตลาดมองว่าอีซีบีจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 16 มี.ค. สำหรับกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ขายออก 2.31 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 915.3 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ภาพรวมราคาทองคำโลกมีแนวโน้มที่จะเป็นลักษณะของ Bottom Out ได้ ซึ่งการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำเมื่อวานนี้มีนัยสำคัญทางเทคนิคจากการที่ราคาทองคำฟอร์มตัวในรูปแบบ Double Bottom ลงไปที่แนวรับบริเวณ 1,805 เหรียญ ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาได้เป็นวันที่ 3 โดยมีการปรับตัวขึ้นอย่างช้าๆ ขณะเดียวกันราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาทดสอบที่บริเวณ Fibonacci 61.8% ที่ระดับ 1,829 เหรียญ หลังจากที่ราคาทองคำหลุดลงไปประมาณ 70% ในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นการดีดกลับอย่างมีนัยสำคัญในระยะสั้น โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ 1,810 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,840 เหรียญ โดยเป็นลักษณะของการค่อยๆ ปรับฐาน
ภาพรวมราคาทองไทยในเชิงเทคนิคเริ่มปรับขึ้นทะลุ Double Top ขึ้นมา เป็นรูปแบบการปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากที่เคลื่อนตัวในลักษณะ Sideways ระหว่างบริเวณ 29,700 - 30,000 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งราคาทองไทยสามารถยืนเหนือ 30,000 บาทต่อบาททองคำได้ ทำให้ภาพรวมทิศทางทองไทยเป็นทิศทางขาขึ้น
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,820 เหรียญ และแนวต้าน 1,850 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,815 เหรียญ และแนวต้าน 1,845 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 30,100 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 30,500 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series J23 จะมีแนวรับที่ระดับ 30,550 บาท และแนวต้านที่ระดับ 30,850 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 5 - 10 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำลงทุนในกรอบ Sideways Up เน้นเทรดระยะสั้นตามกรอบแนวโน้มทิศทางขาขึ้น ลงซื้อขึ้นขาย ระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน เน้นเทรดระยะสั้น ระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้านและปิดทำกำไรตามแนวรับ เน้นเทรดระยะสั้น ระวังความผันผวนของราคา
ข่าวเด่น