ทิศทางราคาทองคำ
ภาพรวมราคาทองคำดีดกลับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยราคาทองคำสามารถขึ้นมาทดสอบที่บริเวณ 1,840 เหรียญได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าการปรับขึ้นของราคาทองคำค่อนข้างมีนัยสำคัญแม้จะปรับตัวขึ้นอย่างช้าๆ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้แก่ ISM Manufacturing PMI ออกมาลดลงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯเริ่มอ่อนแอบ้างเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ ได้แก่ ไต้หวัน และออสเตรเลีย ซึ่งเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจถดถอยแล้ว จากตัวเลข GDP ที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ขณะที่สหรัฐฯ ยังคงประคองเศรษฐกิจด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินจำนวนมาก แม้เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯมากนัก รวมถึงตลาดแรงงานสหรัฐฯยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังไม่ได้เข้าสู่ภาวะถดถอยในเร็วๆนี้ ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง ขณะที่เช้านี้ดัชนีดอลลาร์อยู่ที่ระดับ 104.57 จุด จากเมื่อวานนี้ที่เคลื่อนตัวในกรอบระหว่าง 105.09 - 104.09 จุด ซึ่งจะเห็นได้ว่าตลาดการเงินมีความผันผวนค่อนข้างมาก ส่งผลให้ค่าเงินบาทผันผวนอย่างมากเช่นเดียวกันโดยค่าเงินบาทหลุดจากระดับ 35.36 บาทต่อดอลลาร์ หลุดลงไปที่ระดับ 34.63 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าค่าเงินบาทผันผวนในวันเดียวเกือบ 73 สตางค์ บ่งชี้ถึงภาวะการเงินทั่วโลกมีความอ่อนไหวตามสภาพแรงเก็งกำไรของตลาด และการเคลื่อนย้ายเงินทุนหมุนเวียน สำหรับกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ขายออก 2.61 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 912.69 ตัน อย่างไรก็ตามราคาทองโลกไม่ได้ปรับลดลงตามไปด้วย ซึ่งถือว่าราคาทองคำขณะนี้มีความแข็งแกร่งพอสมควร ขณะที่ข้อมูลจากสภาทองคำโลก (WGC) ระบุว่า ในปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำเป็นทุนสำรองรวมกันมากถึง 1,136 ตัน คิดเป็นมูลค่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นมูลค่าสูงสุดในรอบ 55 ปี สำหรับราคาทองไทยสามารถกลับมายืนเหนือ 30,000 บาทต่อบาททองคำได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งการปรับขึ้นของราคาทองไทยมาจากค่าเงินบาทเป็นหลัก ดังนั้นสภาพตลาดทองคำขณะนี้ จึงต้องวิเคราะห์ปัจจัยหลัก 2 ข้อ ได้แก่ ดัชนีดอลลาร์ และสกุลเงินท้องถิ่น สำหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Unemployment Claims คาดการณ์จะออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ภาพรวมราคาทองคำเริ่มมีลักษณะของการ Bottom Out ซึ่งบ่งชี้ว่าในระยะสั้นราคาทองคำเริ่มมีสัญญาณของการกลับตัวดีดกลับขึ้นมาได้ โดยราคาทองคำฟอร์มตัวได้อย่างแข็งแกร่งในลักษณะของ Double Bottom ที่ระดับ 1,805 เหรียญ และสามารถดีดกลับขึ้นมาได้ โดยมีลักษณะ Technical Rebound กลับขึ้นมามาทดสอบบริเวณ Fibonacci 50% หลังจากหลุด 70% ในช่วงก่อนหน้า ขณะที่ Fibonacci 61.8% อยู่ที่ระดับ 1,829 เหรียญ ภาพรวมราคาทองคำมีความแข็งแกร่งพอสมควร โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ 1,820 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,850 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,830 เหรียญ และแนวต้าน 1,860 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,825 เหรียญ และแนวต้าน 1,855 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 30,000 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 30,400 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series J23 จะมีแนวรับที่ระดับ 30,300 บาท และแนวต้านที่ระดับ 30,600 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 10 - 15 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำลงทุนในกรอบ Sideways Up เน้นเทรดระยะสั้นตามกรอบแนวโน้มทิศทางขาขึ้น ลงซื้อขึ้นขาย ตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน ระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน เน้นเทรดระยะสั้น ระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้านและปิดทำกำไรตามแนวรับ เน้นเทรดระยะสั้น ระวังความผันผวนของราคา
ข่าวเด่น